Category ข่าวบันเทิง

พิม พิมประภา ลุคเซ็กซี่

กว่าจะขึ้นแท่นสาวแซ่บ พิม โดนเคี่ยวเข็ญจนน้ำตาเล็ด พร้อมจับไมค์ร้องเพลง รอจังหวะลงตัว

นอกเหนือจากเป็นนางเอกเจ้าบทบาท สาว “พิม พิมประภา ตั้งประภาพร” เผยความสามารถด้านการร้องเพลง ที่ล่าสุดได้ขึ้นคอนเสิร์ต Kamikaze Party 2022 ร้องเต้นโชว์ความเป็น อดีตเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอต ก็มีเสียงเรียกร้อง อยากที่จะให้สาว “พิม” กลับมาทำเพลง เป็นเรื่องราวอีกรอบ จะเป็นไปได้มั้ย

พิม เปิดเผยว่า “จริงๆ ต้องการทำมากค่ะ รอจังหวะที่เหมาะสม ด้วยเหตุว่าเพลงเพลงนึง ที่ทำออกมามันต้องทุ่มเท เนื่องจากว่าเราเป็นนักร้อง เมื่อก่อนเราอยู่ในพาร์ต ที่ไม่ค่อยได้โอกาสร่วมตัดสินใจในเพลง เราทำตามในสิ่ง ที่เค้าวางเอาไว้ พิมมองว่าถ้าพิมจะทำเพลง ทุกสิ่ง

ต้องมาจากตัวพิมทั้งหมดเลย จะต้องมีเวลาทำงาน หาเพลงเหมาะกับเรา จะต้องใช้เวลาพัฒนาผลงานขึ้นมา ในช่วงเวลานี้ไม่ว่างมากพอ ที่จะทำด้วยเหตุว่าส่วนใหญ่ช่วงนี้ เราทุ่มเทให้กับละครอยู่”

พิม พิมประภา สาวแซ่บ

ไฟในการทำงานเพลงเดี๋ยวนี้ล่ะ?

“พร้อมค่ะ ยังมีอยู่ค่ะ ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว จะได้เห็นตามยูทูบ ติ๊กต่อก โซเชียลของพิม มิได้หายไปไหน พิมยังได้ทำในสิ่งที่เรารัก มันเป็นชีวิตของเราอยู่แล้ว ทำเพราะชอบ ไม่ได้มองมันเป็นอาชีพ หรือสิ่งที่เราจะต้องฝืนทำ”

พอลงยูทูบคนจะเรียกร้องเมื่อไหร่จะกลับมาทำเพลง สร้างแรงกดดันให้กับตัวเรามั้ย?

“ไม่กดดันสิ เราดีใจ มีคนรอติดตามอยู่ เราเชื่อแหละ แฟนคลับเราก็ต้องซัพพอร์ตเราทุกๆ งานที่เราทำ เราจะเล่นละคร ไปคอนเสิร์ต เค้าซัพพอร์ตเราเต็มที่”

ต้องการทำเพลงเองมั้ย?

“ยังมิได้คิดเลย จะเป็นแบบไหน เราเพียงรู้สึกว่าอยากมีส่วนในการ เลือกโปรดิวซ์แล้วก็ทีมทุกๆอย่างเอง เราต้องการทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นตัวเรามากที่สุด”

เห็นว่าผู้จัดการเราจะต้องทำการบ้านเคี่ยวเข็ญ ปรับลุคเสื้อผ้าหน้าผมเรากระทั่งมาถึงวันนี้?

“ตอนนี้พิมโดนน้อยลงแล้ว ถ้าหากให้เท้าความตอนยากๆ เลย ย้อนไป 7-8 ปีที่แล้วแม่ๆ เริ่มมาดูแลพิม พิมก็จะเป็นเด็กกะโปโลคนนึง แต่งตัวไม่เป็น ยังไม่รู้ทำผม แต่งหน้า แต่งตัวอย่างไรถึงเรียกว่าสวยแล้ว เข้ากับตัวเอง ช่วงนั้นแม่ๆ เหนื่อยกับพิมมาก ในตอนพิมอ้วนขึ้น จะต้องส่งน้ำหนักไป ให้ดูทุกๆวัน เท่าไหร่แล้วเครียดค่ะ พิมรู้สึกว่าหลายๆคน มองว่าบ้านนี้ทำไมโหดจังเลย แต่พิมเห็นว่าถ้าเกิดพิมไม่มีแม่ๆ คอยดัน พิมอาจจะไม่มีแพสชัน ผลักดันตนเองพอให้มันได้ สิ่งนี้ช่วยทำให้พิมพัฒนาตัวเองได้ไวมาก สิ่งที่เราเห็น เราได้รับการตอบรับ จากคนรอบข้างอย่างเห็นได้ชัด

มีคนชมสวยขึ้นนะ ปัจจุบันนี้แต่งตัวเก่งขึ้น สวยขึ้น ดูดีขึ้น มันมาจากแม่ๆ พยายามแต่งตัวเรา พยายามช่วยเสริมเติมแต่ง ให้เรามีการพัฒนาขึ้น พิมเคยเข้าห้องดำมาแล้ว นั่งร้องไห้เลยจำได้ โดนรุมวันนั้นมี 3 คน พี่แอม พี่หวานเจี๊ยบ พี่ยอด เรียกไปห้องดำ พิมจำได้ว่า โดนอบรมประมาณ 2-3 ชั่วโมง ตั้งแต่เรื่องลงรูป เรื่องแต่งตัว เมื่อก่อนพิมไม่ทำเล็บเลย เป็นผู้หญิงที่ทำเล็บไม่เป็น บางครั้งถ่ายภาพมาเล็บแย่ๆ เค้าซูมให้ดูเล็บ เป็นอย่างงี้มันน่าเกลียด ก็จริงของเค้า บางครั้งเราออกงานจะต้องมีชุดเอาไว้ แล้วพิมเป็นคนไม่ช็อปปิ้ง ตู้เสื้อผ้ามีแต่ขาวดำ ออกงานไม่ได้เลย ก็จะต้องโดนด่า รองเท้าส้นสูงไม่มี เป็นคนใส่ผ้าใบ แม่ๆ ก็มาแล้ว พิมจะต้องมีรองเท้าสีครีม สีเงิน สีทองอย่างนี้ๆ ต้องไล่ซื้อมา จะต้องส่งรายงาน ให้ดูทุกเดือน ซื้อชุด ซื้อรองเท้าแล้วนะ เข็นทุกกระเบียดนิ้วเลย”

โดนเข็นหนักๆ ร้องไห้แค่ไหน?

“ร้องค่ะ โดนหักเงินก็ประจำ เล็บละพัน หมื่นนึงจ่ายมาแล้ว การลงรูปแต่ก่อนโดนด่าว่า พิมจะเป็นนักกวีหรือเป็นดารา คือพิมชอบลงภาพต้นไม้ใบหญ้า เขียนแคปชันคำคม คือเป็นเด็กติสต์ๆ เปิดในไอจีไม่รู้เป็นใคร ไม่มีรูปพิมเลย พี่แอมบอกนี่ ถ้าหากลูกค้าเปิดเข้ามาดู ในไอจีไม่รู้เลยว่าเป็นใคร ไม่มีรูปสวยๆสักรูป เราก็จะต้องถ่ายรูปสวยๆ ส่งไปให้เค้าเช็ก จะต้องลงวันละ 3 รูป หากไม่ลงหักรูปละพัน”

พอลุค พิม ระยะหลังๆ มาแนวเซ็กซี่ แฟนเรามีขอเรื่องนี้กับเรามั้ย หรือหวงบ้างมั้ย?

“ไม่มีเลย เค้ามิได้ก้าวก่ายพาร์ตการทำงานของเรา เค้ารู้อยู่แล้วบทบาทนี้ แต่งตัวให้อยู่ในคาแรกเตอร์ อยู่ตอนโปรโมตละคร แล้วบทเรามีความเปรี้ยว ความเซ็กซี่ เราก็ต้องอยู่ในโหมดตามนั้น บางเรื่องสดใสน่ารักนิดหนึ่ง เราก็จะแต่งแบ๊วๆ แล้วแต่ชิ้นงานเลย แล้วก็เค้าเข้ามา ก็รู้อยู่แล้วว่า เราเป็นนักแสดงฉะนั้นจะต้องมีความเข้าใจ ตั้งต้นมาอยู่แล้วด้วย เค้าให้อิสระในการทำงาน ไม่มีคอมเมนต์ประเด็นการแต่งตัวอะไรเลย มีการพูดซัพพอร์ตกันค่ะ”

พิม พิมประภา ร้องไห้

“พิม พิมประภา” เล่าทั้งน้ำตา เรียนจบได้เพราะ “เชียร์” ยื่นมือช่วยในวันที่ชีวิตเจอวิกฤต

นับเป็นครั้งแรกที่นางเอกสาว พิม-พิมประภา ตั้งประภาพร ซึ่งกำลังมีผลงานละครเรื่อง ดงดอกไม้ ทางช่องวัน 31 ได้ออกมาเปิดใจ ถึงเรื่องราวในอดีต ที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน กลางรายการ วันบันเทิงTALK ทางช่องยูทูบ วันบันเทิง ว่าคราวหนึ่งครอบครัว มีปัญหาทางด้านการเงิน กระทั่งไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ของมหาวิทยาลัย แต่ได้นักแสดงรุ่นพี่ เชียร์-ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ยื่นมือเข้าช่วย ให้ยืมเงินเพื่อจ่ายค่าเทอม

“พิมมีเป้าหมายอย่างหนึ่งเลยว่า ชีวิตนี้พิมจะไม่เป็นหนี้อีก แล้วถ้าถามเพราะอะไร พิมพ์ถึงทำงานขนาดนี้ หรือพยายามขนาดนี้ คือ มันมีเหตุการณ์หนึ่ง อันนี้จะเป็นเรื่องเงินค่ะ มันเป็นตอนที่จะต้องจ่ายค่าเทอม แล้วก็มันก็จะมีบิล ที่จะต้องไปจ่าย พิมจำภาพตัวเองได้ว่า พิมยืนร้องไห้เพราะว่า พิมไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอม พิมจำได้ว่าตัวเอง เหลือเงินในบัญชีแบบหลักร้อย”

“ช่วงนั้นจะต้องเล่าว่า มันเป็นช่วงที่เราต้องใช้หนี้ ซึ่งทั้งหมด ที่พิมมีก็คือต้องไปใช้ตรงนั้น เพื่อช่วยครอบครัว ช่วยทั้งหมดที่เรามี จำได้เลย แบบเอายังไงดีไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เราอยู่จุดนี้ได้ยังไง นี่คือการศึกษา และเรารู้มาตลอดว่า เราไม่เคยขาด เพราะว่าพ่อแม่เรา ทำงานหนักมาก เพื่อให้เราได้การศึกษาที่ดี”

ผ่านวันนั้นมาได้เช่นไร ?

“พิมจำได้ว่าพี่เชียร์ให้พิมพ์ยืมเงิน (น้ำตาคลอ) พี่เชียร์ ฑิฆัมพร ค่ะ พิมเล่นละครกับเขา พี่เขาเป็นผู้ที่มีพระคุณกับพิมคนหนึ่ง วันนั้นเป็นช่วง ที่เราเล่นละครร่วมกัน แล้วมันเป็นช่วงที่หนักสำหรับพิม ซึ่งพี่เขาเป็นพี่ ที่รับทราบด้วยความที่ เราอยู่กองถ่ายร่วมกัน แต่ว่ามันก็เป็นเงินเล็กน้อยนะคะ มิได้เป็นหลักที่เยอะ แต่ว่ามันก็ทำให้เรา ได้เรียนจบ ให้เรามีใช้ ซึ่งพอพิมมีเงิน พิมก็คืนทันที”

ไบร์ท วชิรวิชญ์ เพลงใหม่

ไบร์ท ส่งเพลงคลั่งรัก My Ecstasy คว้าโบว์ แซ่บขยี้ใจ ได้ D GERRARD โปรดิวซ์ร่วมFeat.

เรียกเสียงฮือฮา กับผลงานเพลงใหม่ปัจจุบันต้อนรับปี 2023 ของศิลปินหนุ่มสุดฮอต “BRIGHT” (ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี) สังกัด “GMMTV” ในซิงเกิลที่มีชื่อว่า “My Ecstasy” แนวดนตรีสไตล์ R&B Hiphop ที่ได้ศิลปินร้อยล้านวิวอย่าง “D GERRARD” นั่งแท่นตำแหน่งโปรดิวเซอร์ และร่วม Featuring เป็นการโคจรมาร่วมงานกันเป็นครั้งแรก

โดยรายละเอียดเพลง “My Ecstasy” เป็นการถ่ายทอด เรื่องราวของคนคลั่งรัก ที่ใช้ความรู้สึกนำทางทุกอย่าง มองความรักเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แล้วก็คือเรื่องของหัวใจ ที่อยู่เหนือเหตุผล สำหรับพาร์ตของ Music Video เป็น Mood & Tone ที่มีความเท่ผสมผสาน ความเซ็กซี่ได้อย่างพอดี งานนี้ได้นางเอกสาวสวย “โบว์–เมลดา สุศรี” ที่ขอสลัดลุคสดใสน่ารัก มาเพิ่มดีกรีความร้อนแรง แบบเซ็กซี่ขยี้ใจ

ไบร์ท วชิรวิชญ์ ปล่อยเพลง

สำหรับเพลง “My Ecstasy” ของ “BRIGHT” อยู่ภายใต้การสร้างของ “RISER MUSIC”

แบรนด์ใหม่จาก “GMMTV” นอกเหนือจากความชำนาญการแสดงแล้ว ศิลปิน-นักแสดงของ “GMMTV” ยังมีความสามารถ ที่หลากหลาย แบรนด์ใหม่ “RISER MUSIC” ก็เลยถูกก่อตั้งขึ้น เพื่อรองรับความสามารถ ทางด้านดนตรีที่มีความสะดุดตาของศิลปินในสังกัด

แล้วก็นอกจาก “BRIGHT” ศิลปินที่มีผลงานเพลงแรกจาก “RISER MUSIC” แล้ว ยังมี คริส–พีรวัส แสงโพธิรัตน์, นนน–กรภัทร์ เกิดพันธุ์, วง SIZZY, น้องๆจาก Project Alpha รวมทั้งอื่นๆ อีกแน่ๆ ติดตามเพลง “My Ecstasy” ได้แล้ววันนี้ทาง YouTube : RISER MUSIC

ไบร์ท วชิรวิชญ์ ประวัติ

ไบร์ท วชิรวิชญ์ คว้า

ประวัติ ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี

ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี พระเอก F4 Thailand ชื่อเดิม กุลธร ชีวอารี เกิดวันที่ 27 เดือนธันวาคม พ.ศ.2540 เป็นพิธีกรรวมทั้งนักแสดงชายชาวไทย มีเชื้อสายไทย-จีน- อเมริกัน สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนอนุบาลสุธีธร จังหวัดนครปฐม ระดับชั้นม.ต้น จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 134 รวมทั้งระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ 76 เคยเข้าศึกษาในโครงการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตภาคภาษาอังกฤษ (TEPE) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สาขา Marketing (หลักสูตรนานาชาติ)

ไบร์ท วชิรวิชญ์ เริ่มเข้าสู่แวดวงบันเทิง จากการเป็นพิธีกรรุ่นที่ 6 ในรายการ สตรอเบอรี่ครับเค้ก ทางช่อง 3 เมื่อปี 2556 ต่อจากนั้นก็เลยได้เริ่มมีผลงานการแสดงมิวสิกวีดิโอ ภาพยนตร์ รวมทั้งผลงานแสดงในซีรีส์ I Sea U ฉันรักทะเล…ที่มีเธอ และก็ได้มีโอกาสออดิชั่นเข้าร่วมโครงการ GMM25 New Face ถัดมาภายหลังจึง ได้เซ็นสัญญากับจีเอ็มเอ็มทีวี ในปี พ.ศ. 2563 ได้แสดงบท สารวัตร ในซีรีส์ เพราะเราคู่กัน คู่กับ เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ซึ่งได้ร้องประกอบสองเพลง คือ คั่นกู ที่ไต่ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตประจำสัปดาห์ของจูกซ์ได้ แล้วก็เพลง ตกลงฉันคิดไปเองใช่ไหม ล่าสุดเป็นพรีเซนเตอร์ True5G

ผลงานภาพยนตร์

ปี 2559

เลิฟเซเฮ อยากเซย์ว่ารักเธอ รับบทบาท เต้

ผลงานละครโทรทัศน์

ปี 2556

The Beginning ตอน รักร้อยเมตร (Run Lover Run!!!) รับบท ไบร์ท

ปี 2557

บันทึกกรรม ตอน ยอดมนุษย์ธรรมดา เล่นบท เต่า

ปี 2560

รูปทอง สวมบทบาท เอกรัตน์

ปี 2561

I Sea U ฉันรักทะเล…ที่มีเธอ สวมบท ปีเตอร์
Love Songs Love Series ตอน เราและนาย สวมบทบาท ไบร์ท
Social Death Vote เล่นบท เดย์
Love Songs Love Series ตอน จะรักหรือจะร้าย สวมบทบาท เต๋อ
Love Songs Love Series ตอน ก็เคยสัญญา รับบทบาท เคน
ยุทธการปราบนางมาร รับบท ตัวโน้ต

ปี 2562

ก่อนอรุณจะรุ่ง สวมบท อโณทัย
My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน รับบท หมอเป้ง (ตอนวัยรุ่น)
เฮฮาเมียนาวี เล่นบท พลทหารไบร์ท

ปี 2563

เพราะเราคู่กัน 2gether The Series สวมบทบาท สารวัตร
เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Still 2gether สวมบทบาท สารวัตร

ปี 2565

F4 Thailand รับบท ธาม
คืนนับดาว เล่นบท คิมหันต์

ผลงานเพลง

เพลง คั่นกู (เพลงประกอบซีรีส์ เพราะเราคู่กัน 2gether The Series)
เพลง ตกลงฉันคิดไปเองใช่ไหม (เพลงประกอบซีรีส์ เพราะเราคู่กัน 2gether The Series)

พิธีกร

1รายการ “สตรอเบอรี่ครับเค้ก” ทางช่อง 3
2รายการ “โตแล้ว” ทางช่อง GMM25
3รายการ เพราะเราเล่นกัน ทางช่อง YTGMM

มิวสิกวิดีโอ

1เพลง กอดไม่ได้ ศิลปิน Bedroom Audio
2เพลง ปีศาจ Ost. Social Death Vote ศิลปิน แม็กซ์ เจนมานะ
3เพลง เอามั้ย ศิลปิน สิงโต นำโชค & ตู่ ภพธร
4เพลง ร้องไห้คนเดียว ศิลปิน Muzu
5เพลง คนเดิม ศิลปิน นิว นภัสสร ภูธรใจ
6เพลง แค่หน้าจอ (Your story) ศิลปิน PAAM
7เพลง ติดกับ Ost. เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ศิลปิน แม็กซ์ เจนมานะ
8เพลง คั่นกู Ost. เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ศิลปิน ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี
9เพลง ตกลงฉันคิดไปเองใช่ไหม Ost. เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ศิลปิน ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี

รางวัลที่ได้รับ

ปีพ.ศ. 2563

รางวัลขวัญใจ KAZZ MAGAZINE

ไอจี ไบร์ท วชิรวิชญ์ @bbrightvc

ไบร์ทหล่อระดับ

หล่อระดับเวิลด์คลาส “ไบร์ท” นำทีมซุปตาร์สายเลือดไทยติดอันดับ หนุ่มหน้าหล่อที่สุดในโลก 2022

“ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี” อันดับที่ 29 สมมงหนุ่มฮอตของวงการบันเทิงจริงๆสำหรับ “ไบร์ท วชิรวิชญ์” ที่ติดอันดับที่ 29 ใน The 100 Most Handsome Faces of 2022 โดยไบร์ทติดโผหนุ่มหล่อมา 3 ปีแล้ว นอกจากผลงานเปรี้ยงปังแล้ว ความหล่อยังตราตรึงใจแฟนคลับ ทั่วทั้งโลกอีกด้วย

จ๋า ณัฐฐาวีรนุช คาสโนวี่

จ๋า ณัฐฐาวีรนุช เล่าอดีตวีเจสาวสุดฮอต หนุ่มรุมจีบจนได้ฉายาคาสโนวี่ตัวแม่

เป็นอีกหนึ่งสาวที่เคยได้ฉายาว่าเป็น คาสโนวี่ อีกคนของแวดวงบันเทิง สำหรับ จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ที่ในสมัยก่อนจะต้องสารภาพว่า เธอเป็นอีกหนึ่งสาวฮอต ที่มีหนุ่มๆ ตามขายขนมจีบอยู่เป็นประจำกระทั่งกลายเป็นข่าวสาร รวมทั้งได้ฉายาดังกล่าวมาครอง

ปัจจุบัน จ๋า ได้มานั่งคุยอัปเดตเรื่องราวชีวิตของตัวเอง และก็เล่าราวในสมัยก่อนของตัวเอง ในรายการ “วีเจจ๋า” ตำนานคาสโนวี่ ผ่านมือแม่มาแล้วกว่าครึ่งวงการ ซานิเบาได้เบา ซึ่งในบางช่วงบางตอนจ๋า ได้เอ่ยถึงต้นเหตุของฉายาคาสโนวี่ ที่เจ้าตัวได้รับมา ให้ทุกคนได้ฟังว่า

จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ฉายา

ตำแหน่งคาสโนวี่ได้มาเพราะอะไร?

ชนะเลิศ ข่าวเยอะมาก ถ้าหากจากวิเคราะห์นะ คือเป็นรุ่นกลางเก่า กลางใหม่ เก่ากว่าจ๋าเขาก็จะปิด คบกันก็พูดว่าคบกันไม่ได้ เขาจะต้องแอบเจอกัน พรางตัว แต่จ๋าอยู่ในกลางเก่า กลางใหม่ แล้วก็อยู่แชนแนลวี ก็จะโมเดิร์นกว่าช่อง มันก็เปิดๆ พอมีคนมาจีบเขา ก็มาหาที่ช่องบ้าง นัดพบกันตามห้างบ้าง มีคนเห็น นักข่าวเห็น แต่ก่อนปาปารัสซี่โหดมาก เคยไปเดินจตุจักร ไปกับใครก็ไม่รู้ (หัวเราะ) จำไม่ได้ แล้วมีคนถือมือถือกดถ่ายรูป แล้วจ๋าหันไปเห็น ก็เดินไปขอดูมือถือหน่อย เขาก็พูดว่า อะไรโทรศัพท์ผม จนกระทั่งเราเห็นว่าเขาถ่าย ก็ยกมือไหว้ บอกว่าพี่คะ ลบได้มั้ย ด้วยเหตุว่าแต่ก่อนมันขายได้ รูปละ 1-2 หมื่นก็มี

ทีแรกจ๋าไม่ชอบคำว่าคาสโนวี่เลย เนื่องจากว่ามันเป็นคำที่กล่าวว่าเจ้าชู้ จ๋าเป็นคนจริงจังเรื่องความรัก ก็จะมีความรู้สึกว่าตัวเองมิได้เจ้าชู้ เวลาคบคนไหนก็คบครั้งละคน คบจริงๆ บางทีเรายังไม่ได้เลือก แต่เขามาหา 1 ที ผู้ที่เห็นก็นับเป็น 1 คน และนับว่าคนนี้เป็นแฟนเลย ก็เลยกลายเป็นว่านับไปหมด หรือพวกข่าวโปรโมตก็มี หรือภายหลังที่เล่นจบแล้วมาคุยก็มี

มีอภิมหาเศรษฐีมาจีบ แต่ว่าแปลกๆ?

อย่างโชว์รถ ไม่ทราบบ้านรวยจริงรึเปล่า เพราะยังไม่เคยไปถึงขั้นการได้รู้จัก ทีแรกมาหาที่แชนแนลวี ขับรถมาส่งขนมเสร็จ และก็กลับ วันรุ่งขึ้นเขาก็มาอีก แต่รถไม่ซ้ำ บางเวลาเราไปกินข้าวในซอย เขาก็ขอมาหา เอาของมาให้ ก็ขับมาจอดถึงหน้าร้าน จะต้องให้เราเห็นว่าเขาขับรถอะไรมา อีกร้านหนึ่งไม่มี ที่ให้จอด เขาก็ขับขึ้นฟุตปาทมา ที่ไม่ถามทำไมรถยนต์เยอะจังเลย เนื่องจากว่ากลัวจะมาไม่หยุด

พวกเจ้าชู้ก็มี พวกขอแต่งงานก็มีแต่ว่าเขาจะเด็กหน่อย อาจจะมีความคลั่งรัก วันวาเลนไทน์เขาก็ติดต่อคนภายในบ้าน ขอปลูกดอกไม้ให้ทั้งสวนเลย ก็ตื่นมาเห็นดอกไม้ทั้งบ้านเลย ยังไม่ได้คบกันเลย ขอแต่งงานเพื่อแสดงความจริงใจ ก็เลยบอกเขาว่า ทำอย่างนี้ให้ได้สัก 6 เดือนก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน แต่เขาทำได้แค่ 3 เดือน ก็บอกว่าไม่ไหวแล้ว อยากได้ความรักกลับมาบ้าง

จ๋า ณัฐฐาวีรนุช y2k

จ๋า ณัฐฐาวีรนุช กอล์ฟไมค์

“วีเจจ๋า” Y2K แบบไม่ต้องพยายาม เปิดภาพเก่าสมัยวัยรุ่น แต่ละคนฮอตมาก

กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง สำหรับเพื่อการแชร์โมเมนต์ในสมัย ที่เป็นวัยรุ่นยุค Y2K ที่เรียกว่าเป็นอีกช่วงอายุ ของการเก็บไว้เป็นโมเมนต์ ที่ดีต่อหัวใจเลยจริงๆ

ปัจจุบัน วีเจจ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี ก็ขอออกมาเปิดเผยภาพในช่วงนั้นด้วยด้วยเหมือนกัน โดยเจ้าตัวได้เขียนแคปชั่นไว้ว่า “Y2K มั่ง แบบไม่ต้องพยายาม แค่เอารูปจริงมาลง น้องๆ ไม่ต้องอิจฉานะคะ สมจริงกว่าใคร เนื่องจากว่าพี่แก่ จบนะ (2 รูปสุดท้ายคือปัจจุบัน แค่สวมเสื้อก็รู้รุ่นเลยค่า)”

งานนี้ทำเอาแฟนๆ ถึงกับต้องขอเข้ามาคอมเมนต์ ในความสวย และก็หน้าเด็กตลอดกาลของ วีเจจ๋า ทั้งยังหวนนึกถึงซุปตาร์ที่ถ่ายรูปอยู่เคียงคู่แต่ละคน ติ๊ก เจษฎาภรณ์, วุ้นเส้น วิริฒิพา, พิตต้า ณ พัทลุง, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, โบ สุรัตนาวี หรือ กอล์ฟ-ไมค์ ที่ซึ่งพูดได้ว่าแต่ละคน เป็นตำนานความฮอตในสมัยนั้นจนถึงยุคนี้เลยจริงๆ

จ๋าณัฐฐาวีรนุช

ปีก่อน “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช” เข้ารับการผ่าตัดครั้งแรกในชีวิต แฟนๆส่งความห่วงใย

“จ๋า ณัฐฐาวีรนุช” เข้าโรงพยาบาล รับการผ่าตัดหนแรกในชีวิต เจ้าตัวอัปเดตอาการ แฟนคลับพากันส่งความห่วงใย เป็นสาวที่รักษาสุขภาพแบบดีสุดๆ อีกหนึ่งคน สำหรับสาว จ๋า ณัฐฐาวีรนุช แต่ว่าล่าสุดก็ทำเอาแฟนๆ แอบเป็นห่วงเมื่อจ๋าต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการผ่าตัดเป็นครั้งแรกในชีวิต งานนี้แฟนคลับส่งกำลังใจล้น

โดยปัจจุบัน จ๋า ได้โพสต์ภาพตัวเอง ขณะแอดมิทที่โรงพยาบาล พร้อมกับข้อความว่า “มาผ่าตัดทอนซิลค่ะ นับเป็นการผ่าตัดครั้งแรกของจ๋าเลย ต้องขอบคุณ นพ.ภูริช ประณีตวตกุล และ พญ. ศุภรา ลีชาแสน ดูแลจ๋าเป็นอย่างดีเลย

ในขณะนี้ก็สบายดีค่ะ แผลน่าจะ 1-2 สัปดาห์คงจะหาย อาหารช่วงนี้เลยกินได้แค่น้ำๆ ซุปๆ กับงดออกกำลังซักพักค่ะไว้จะมารีวิว ให้ฟังนะคะ มารายงานตัวไว้ก่อน อ่อ เวลานี้ไม่สะดวกคุยนะคะ กล่าวไม่ค่อยถนัด”

ในตอนที่แฟนๆ เข้ามาส่งความห่วงใยให้จ๋ากันมากมาย

ฟาง ว่าน รัก7ปี

ฟาง-ว่าน จับมือก้าวสู่ปีที่ 7 ไม่หวั่นไหวเลขอาถรรพณ์ เป็นความรักเรียบง่าย

เป็นคู่รักยาวนาน 7 ปี สาว “ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์” และก็ “ว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์” คบกันแบบราบรื่นเรียบง่าย ก้าวสู่เลข 7 ที่ใคร ๆก็บอกว่าเป็นเลขอาถรรพณ์ชีวิตคู่ ทั้ง ว่าน-ฟาง ไม่กลัวเรื่องนี้ แต่ว่าเข้าใจสุด ๆ เจอทั้งสองออกงานคู่ ให้สื่อสัมภาษณ์ที่งานบวงสรวงซีรีส์เรื่อง “เพื่อนผมมีมรดกเป็นโฮมสเตย์ครับ” แล้วก็เป็นครั้งแรก ที่ทั้งสองทำงานด้วยกัน

ฟาง ว่าน สัมภาษณ์

ฟาง ว่าน เผยถึงความรักตอนนี้ว่า

ว่าน “อย่างเดิมครับผม มันก็เป็นอย่างงี้มาเรื่อยๆ กระทั่งเข้าปีที่ 7 ผมว่ามันปกติดี ราบรื่น เรียบๆ ครับผม”

ฟาง “เรียบง่ายมากค่ะ ก็ดีค่ะ รู้จักกันมาหลายปีแล้วค่ะ”

ว่าน “เหมือนเป็นคำตอบที่พี่ ๆ เขายังไม่ถูกใจ แต่ไม่เป็นไร ด้วยเหตุว่าเรื่องมันก็เป็นแบบนั้น ส่วนเรื่องอนาคตชีวิตคู่ อันนี้ผมเคยชี้แจงให้ฟังไปแล้วว่า เวลาคนเราคบกัน ยิ่งเวลาผ่านมานานเท่าไร มันก็ต้องมองไปข้างหน้า แต่ว่าผมก็ยังไม่ชัวร์ว่าวันไหน เมื่อไรกันแน่ ด้วยเหตุว่ามันก็คือเรื่องของคนสองคน สองครอบครัวที่จะต้องคุยกันให้เข้าใจ”

ฟาง “รู้สึกแปลกๆ เช่นกัน พึ่งจะเคยสัมภาษณ์แบบนี้ร่วมกัน”

ว่าน “ไม่แปลกค่ะ เค้ารู้กันหมดแล้ว”

ฟาง “(หัวเราะ) หมายความว่ายืนคู่กัน ได้ยินเค้าบอกอยู่ข้างๆ แล้วเค้ากล่าวถึงเรา เหมือนเราเป็นบุคคลที่ 3 อะไรแบบนี้”

ว่าน “นับว่าเป็นครั้งแรกเลยครับที่เราสัมภาษณ์คู่กัน”

7 ปีเป็นอย่างไรบ้าง?

ฟาง “ดีค่ะ เค้าก็สม่ำเสมอ ช่วงแรกน้อยยังไง ปัจจุบันนี้ก็น้อยอย่างนั้น (หัวเราะ) ไม่ๆ เค้าก็เป็นคนใส่ใจ ดูแลสม่ำเสมอ เค้าเป็นคนอารมณ์ดี อารมณ์ขัน จะเป็นคนคนกวนๆ หน่อย แรกๆ ก็ปรับตัวไม่ค่อยได้ ตอนนี้ทราบแล้ว บางครั้งเข้าหูซ้ายและก็ทะลุไปหูขวาเลย ไม่ต้องคิดเยอะ(หัวเราะ) โอเคเค้าบอกแล้ว ก็ต้องหาก่อน เป็นระบบที่รู้แล้ว แรกๆ ก็จะงงๆ นิดนึง เพราะว่าจะเชื่อเต็มร้อยเลย หลังๆก็จะ 50:50”

ว่าน “เป็นบางทีผมพูดเล่นๆ ติดพูดหยอก ติดตลก แล้วฟางเค้าเป็นคนไม่ค่อยเข้าใจ อะไรที่ขำๆ เค้าจะไม่รู้เรื่องเท่านั้น เค้าก็พูดว่าเมื่อตะกี้ก็โกหกสิ เราก็พูดว่าไม่ใช่ เมื่อตะกี้มันเพียงมุก คือเราโตมากับวิดีโอตลก แต่เค้าไม่ไง”

ฟาง “บางทีก็โมโห โกรธเค้านิดหนึ่งว่าเพราะเหตุใด พูดจาไม่เพราะอย่างนี้ เค้าก็บอกว่ามันเป็นมุก ในเวลานี้ทราบแล้วว่ามันเป็นภาษาเค้า จูนภาษานิดหนึ่งรู้เรื่องแล้ว ในเวลาที่เค้ารวมกลุ่ม กับเพื่อนเขาดูเรียบร้อยไปเลย (หัวเราะ) รู้ว่าเป็นภาษาการคุยกันที่ปกติ เราจะไม่เคยเจอ พอเราไปซึมซับเรื่อยๆ เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติ เข้าใจได้ ช่วงนี้ชินแล้ว”

ว่าน “ถ้าเกิดพบป๊อบ-โอ๊ต-อ๊อฟ-ว่าน พร้อมกันได้ อยู่ที่ไหนก็ได้แล้ว”

ฟาง “ถ้าคบกันแค่ปีเดียวแล้ว พบอย่างงั้นอาจจะช็อกนิดหน่อย แต่ว่าในช่วงเวลานี้ 7 ปีแล้ว เราก็ปรับตัวได้แล้ว เคยเจอพี่ ๆ เค้าครบแล้ว จริงๆ พี่ๆ เรียบร้อยกว่าที่เค้าออกสื่อนะคะ ยังไม่เคยเจอแบบทำเราน็อก เพราะเหตุว่าพอเราไปเค้า ก็จะซอฟต์ลงหน่อย”

ฟาง ว่าน ละครใหม่

เราทราบแล้วทำไม 7 ปี ถึงเป็นเลขอาถรรพณ์ชีวิตคู่?

ว่าน “ผมพึ่งคุยกับฟางไปเรื่องนี้ ว่าผมเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรถึงเป็นอาถรรพณ์รัก 7 ปี เดานะ เนื่องจากว่ามันมาถึงจุด ที่มีความสัมพันธ์ที่รู้จักกันประมาณหนึ่ง ที่พอเข้าใจแล้วว่าอะไร ที่มันคือเรื่องน่ารำคาญ ที่เราจะต้องพบ เรื่องที่เค้าเป็นแบบนี้แหละ เรื่องเข้าห้องน้ำนาน เรื่องทำเล็บนาน คือเรื่องที่เราคุ้นชินแล้ว จุดโค้งนี้ หากใครข้ามเรื่องน่าเบื่อนี้ ไปได้มันก็จะไปต่อ

แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวแล้วเบื่อระอา ก็จะหยุดความสัมพันธ์ไปเลย รู้ว่าปีที่ 7 มันมีความรู้สึกนี้เกิดขึ้น ความรู้สึกอย่างเดิม คนเดิม พฤติกรรมเดิม เป็นนิสัยที่เราจะต้องพบอย่างงี้ไปตลอด ซึ่งผมก็เฉยๆ นะ เพราะมันก็เหมือนเดิม”

ฟาง “อาถรรพณ์เลข 7 จริงๆ ได้ยินมาสักพักแล้ว แต่ว่าไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าฟางไม่ค่อยนับ ขณะนี้ก็โอเคค่ะ ไม่ใช่ไม่เชื่อ เราสองคนไม่ได้ตั้งใจ ถือว่ากี่วัน กี่เดือน กี่ปี ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ฟางว่าหากมันไม่ดี ไม่ต้องถึง 7 ปี มันก็จะไม่ดีได้”

ประวัติ ว่าน ธนกฤต พานิชวิท

ธนกฤต พานิชวิทย์ หรือ ว่าน เกิดเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2528 ที่จังหวัดนนทบุรี สำเร็จการศึกษาระดับม.ต้น จากโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ แล้วก็ตอนปลาย จากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ปริญญาตรีจาก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ภาควิชาดนตรีสากล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ปัจจุบันนี้กำลังศึกษาเป็นนักเรียนทุนระดับปริญญาโท อยู่ที่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ว่านเข้าแวดวงด้วยการสมัครเข้ารายการทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย ฤดูกาลที่ 2 ในรหัส V3

หลังจบการแข่ง ว่านก็มีผลงานเพลงออกมา ภายใต้สังกัดบริษัท ทรู แฟนเทเชีย ดังเช่น อัลบั้ม รวมทั้งการเล่นละครโทรทัศน์ พิธีกรรายการโทรทัศน์ ละครเวที ภาพยนตร์ และการเป็นดีเจ แต่ว่าภายหลังครบสัญญา 5 ปี กับทาง ทรู แฟนเทเชีย ว่าน ธนกฤต ได้ย้ายสังกัดไปบริษัทในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ชื่อ GMMA แล้วเมื่อวันที่ 8 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 ในก.ย. 2557 ย้ายมาอยู่กับค่ายเพลง สไปซีดิสก์ และก็เปิดตัวซิงเกิลแรกเพลง “ดาวอังคาร” วันที่ 29 ก.ย. 2557 แล้วก็ แถลงข่าวเปิดตัว 30 เดือนกันยายน2557 ธนมันมันธน

ประวัติ ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์

ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ นักร้อง นักแสดง รวมทั้งพิธีกรหญิง เกิดวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2534 ฟางเข้าสู่วงการบันเทิงในปีพ.ศ.2550 จากการเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มศิลปินหญิง เฟย์ ฟาง แก้ว ของค่ายเพลง กามิกาเซ่ ในเครือ อาร์เอส โดยมีเพลงได้รับความนิยมหลายเพลงอย่าง MSN ในปีพ.ศ. 2552 ฟางได้ได้โอกาสเล่นละครครั้งแรกเรื่อง Daddy Duo คุณพ่อจอมเฟี้ยว ต่อจากนั้นฟางก็ส่งผลงาน ทั้งเพลงแล้วก็การแสดงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2558 ฟางได้หมดสัญญากับทางค่าย กามิกาเซ่ ฟางก็มีผลงานหลากหลายทั้งละคร ภาพยนตร์ และก็พิธีกร และในปีพ.ศ. 2562 เฟย์ ฟาง แก้ว ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกรอบ

บิว จักรพันธ์ ดราม่าร้อน

ต้นสังกัดยังไม่เชือด หลังมีดราม่าร้อน บิว จักรพันธ์ ขอฟังความทั้งสองฝ่าย

ภายหลังที่ในโลกโซเชียลกำลังร้ายแรงกับ #บิวจักรพันธ์ กระทั่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ภายหลังที่มีหญิงสาว ที่อ้างถึงว่าเป็นคนรักเก่า ของนักแสดงหนุ่มชื่อดัง บิว จักรพันธ์ พุทธา ออกมาเปิดเผยถึงพฤติกรรม ของนักแสดงหนุ่มว่า มีการทำร้ายร่างกาย ในขณะที่คบกัน มีคบซ้อน มีเรื่องของการโอนเงิน และซื้อข้าวของให้กัน รวมไปถึงการก๊อปพล็อตซีรีส์อีกด้วย

ล่าสุด ทางต้นสังกัดของ บิว ก็ไม่ได้นิ่งเฉย ล่าสุดได้ร่อนจดหมายเพื่ออธิบาย ให้กับชาวโซเชียลได้ทราบภายหลังที่ เกิดเรื่องดราม่าร้อนแรงขึ้น ซึ่งมีใจความว่า

บิว จักรพันธ์ ยังไม่เชือด

ต้นสังกัดบิวจักรพันธ์
ประกาศ เรื่อง ข้อพิพาทของ คุณจักรพันธ์ พุทธา (บิว)

ประเด็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ระหว่างศิลปินในสังกัด คุณจักรพันธ์ พุทธา (บิว) และคุณพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ (ปอย) ทางบริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด ได้รับทราบเรื่อง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางบริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจ

เบื้องต้นได้ดำเนินการ ถามไปทั้งทางฝั่งศิลปินในสังกัด คุณจักรพันธ์ และทางคุณพรรธน์ชญมน ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งคู่ท่านเคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันจริง แต่ว่าปัจจุบันนี้ได้ยุติความสัมพันธ์ลงแล้ว และก็เกิดข้อขัดแย้งระหว่างกันขึ้น

ในส่วนของความสัมพันธ์และก็ข้อขัดแย้งนี้ คือเรื่องส่วนตัวของคนทั้งสอง ซึ่งบริษัทฯ เคารพในการตัดสินใจ ของคนทั้งสอง แต่ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นเป็นประเด็น ที่ละเอียดอ่อนและสำคัญเป็นอย่างยิ่งยวด

ทางบริษัทฯ ใคร่ขอเวลาในการสืบสวนเรื่องราว และก็เหตุต่าง ๆ จากทั้งสองฝั่งให้ชัดเจนและถูกต้อง จึงต้องรับฟังและพิจารณาไตร่ตรอง ข้อมูลที่ได้จากทั้งสองอย่างละเอียด ทำให้ในขณะนี้ ยังไม่อาจจะเปิดเผยรายละเอียด หรือให้ข้อสรุปใดๆได้

อย่างไรก็ดีทางบริษัทฯ ขอประกาศจุดยืนของเรา ให้รู้โดยทั่วถึงว่า บริษัทฯ ตระหนักและให้ความสำคัญ กับข้อพิพาทนี้เป็นอย่างยิ่ง แล้วก็จะไม่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทุกอย่างจะถูกตัดสิน ไปตามกระบวนการความถูกต้อง และก็ยุติธรรมเป็นสำคัญ

ดังนี้ทุกคนต้องรับผิดชอบ ในผลที่ตามมาของการกระทำของตน โดยจะมีการดำเนินการพิสูจน์ ข้อเท็จจริงรวมทั้งข้อมูลทั้งหมด ในชั้นศาลเป็นการถัดไป

ถ้ามีความคืบหน้า ที่ชัดเจนประการใดทางบริษัทฯ จะรีบดำเนินการแจ้งให้สาธารณชน ทราบโดยทั่ว สุดท้ายนี้ บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด ขออภัยในไม่ความสะดวกใจและก็ข้อถกเถียงทั้งหลายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างสูง

แต่ว่าขอให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่าทางบริษัทฯ จะทำหน้าที่ของเราในฐานะ คนกลางดำเนินการทุกอย่าง ในขอบเขตความรับผิดชอบของบริษัทฯ อย่างถูกต้องและก็ยุติธรรมโดยเร็วที่สุด ก็เลยเรียนมาเพื่อทราบ บริษัท Be On Cloud จำกัด 22 มกราคม 2566″

บิว จักรพันธ์ ติดเทรนด์

รู้จัก บิว จักรพันธ์ หนุ่มมาดกวน ยิ้มตาสระอิ ที่กำลังถูกกล่าวถึงในโลกโซเชียล

นาทีนี้หลายคนอาจอยากจะรู้จัก บิวจักรพันธ์ พุทธา นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ไปทำความรู้จักเจ้าตัวกัน

บิว มีชื่อจริงว่า จักรพันธ์ พุทธา เกิดวันที่ 4 มิถุนายน 2537 ปัจจุบันอายุ 29 ปี สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนดาราสมุทร ศรีราชา ต่อจากนั้น สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

บิว เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง จากการร่วมรายการ Cuteboy Thailand หลังจากนั้นทำให้เขา ส่งผลงานในวงการบันเทิงมากขึ้น

นอกจากความสามารถ ในด้านการแสดงแล้ว เขายังมีความสามารถ ในด้านการร้องเพลง เต้น เป่าแซกโซโฟน แล้วก็เล่นเบส มีผลงานเพลงในชื่อวง Stickwithfriends สำหรับผลงานที่สร้างชื่อให้กับ บิว มาจากบทบาท พีท ใน ซีรีส์เรื่อง KinnPorsche The Series La Forte รักโคตรร้าย สุดท้ายโคตรรัก

และก็นอกเหนือจากนี้ บิว ยังมีจุดเด่น ที่เป็นเอกลักษณ์เป็น ยิ้มเก่ง เวลายิ้มตาจะเป็นสระอิ มีรอยยิ้ม ที่เป็นเอกลักษณ์และก็อ่อนโยน และเป็นอีกหนึ่งหนุ่ม ที่มีความรักในแฟชั่น ชอบแต่งตัวสไตล์เกาหลี

แล้วก็ในช่วงกลางปี 2565 บิว ถูกไล่ขุดโพสต์ในอดีต สะท้อนทัศนคติเหยียดเพศ จนกระทั่งเกิดเป็นกระแสในโลกโซเชียล กระทั่งเจ้าตัวต้องออกมา เขียนข้อความขอโทษว่า “จากเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ผมขอโทษจากใจ จากการกระทำความคิด ที่คึกคะนอง แล้วก็มีผลตามมาในตอนนี้ ผมได้รับรู้ถึงปัญหา แล้วก็การตักเตือนจากบริษัท Be on cloud เป็นที่เรียบร้อย”

บิวชอบแฟชั่น

บิว จักรพันธ์ โยนหลักฐานแชตคุยไลน์ ปฏิเสธเรื่องเงิน-สิ่งของ ก่อนปิดทวิตเตอร์

ยังคงร้อนแรงอย่างสม่ำเสมอ สำหรับปมดราม่าร้อนของ บิวจักรพันธ์ พุทธา ที่หลังจากโดนหญิงสาว อ้างถึงว่าเป็นแฟนเก่าออกมา แฉถึงพฤติกรรมว่า โดนทำร้าย แล้วก็มีการคบซ้อน

ปัจจุบัน บิวก็ได้แคปข้อความ แชตไลน์กับหญิงสาว ที่มีข้อควาาม ตอบปฏิเสธไม่ขอรับเงิน รวมทั้งข้าวของจากอีกฝ่าย ซึ่งในแชตนั้น บิวได้พิมพ์ว่าไม่ได้ขอเงิน แต่ขอบคุณ ในความหวังดี แต่ว่าต้องปฏิเสธไป แล้วก็ยังมีข้อความที่อีกฝ่าย ส่งแชตมาด่าแบบรัวๆ

ภายหลังที่ บิว โพสต์แชตไลน์ดังกล่าวไป ก็มีแฟนคลับ และชาวเน็ตเข้ามาทวีต แสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งยังบอกให้บิวหยุด รวมทั้งออกมายอมรับ และมีผู้ที่เข้ามา ให้กำลังใจนักแสดง หนุ่มด้วยด้วยเหมือนกัน สำหรับเรื่องดังกล่าว จะจบลงเช่นไร อาจต้องรอติดตามกันต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน บิว ก็ได้ปิดแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ของตัวเองไปแล้ว

 

โดนมาเยอะ "ครูเต้ย" ควงภรรยาและลูกสาว เปิดใจหลังปกปิดเรื่องครอบครัว

นักร้องหนุ่มลูกทุ่งอินดี้ “ครูเต้ย อภิวัฒน์” ควง “ขนม ศศิกานต์” และน้องตั้งใจ ลูกสาววัย 1 ขวบ 4 เดือน มาเปิดใจครั้งแรก หลังจากปกปิดเรื่องการแต่งงาน รวมทั้งมีลูก พร้อมเล่าเส้นทางความรัก กระทั่งมาถึงประเด็นดราม่าคบซ้อน โดนด่าเละจนหลอนโซเชียล ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ อาจารย์เป็นหนึ่ง แล้วก็บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

คุณพ่อหลงลูกสาวหนักมาก?

ครูเต้ย : มากครับผม ก็ที่สุดของชีวิตครับ เค้าเป็นผู้หญิงอย่างที่เราอยากได้ลูกสาว เราจะลงโซเชียลทุกวันให้คนเห็น

ครูเต้ย อภิวัฒน์ คุยแซ่บ

สปอยล์ลูกกระทั่งภรรยาจะต้องเอ็ด?

ขนม : บางทีเค้าตามใจมากเกินไป เค้าจะซื้อของเล่น อันที่ลูกหยิบขึ้นมา มันเยอะมากเกินไป จนไม่มีที่เก็บแล้ว ที่บ้านทุกวันนี้ก็ยังซื้อ

จุดเริ่มแรกเจอกันได้ยังไง?

ครูเต้ย : ผมเจอในเอ็มวีครับ เพลงๆนึง

ขนม : ไปเล่นเอ็มวีเพลงนึงเป็นนางเอก แล้วไปเจอคนที่รู้จักพี่เค้า คุยกัน แล้วพี่เค้าส่งรูปหนูเข้าไป เค้าเห็นเลยขอเฟซบุ๊กค่ะ

หยอดไปทางเฟซบุ๊ก?

ครูเต้ย : ใช่ครับ แอดไป แล้วก็ไปกดเลิฟบ้าง ตัดสินใจทักแชทไป

อะไรในตัวเค้าที่ทำให้ชอบ?

ครูเต้ย : ไม่รู้ครับมันเป็นรวม ๆ ตอนนั้นเรายังไม่มีใครด้วย เห็นแล้วน่ารักดีอยากคุยด้วย ทักไปครั้งแรกขอบคุณที่รับแอดครับ

ขนม : เหตุผลที่รับแอดเพราะว่าคิดว่าวันนึง เค้าจะมาจ้างเราเล่นเอ็มวี ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกอะไร เค้าทักมาเป็นช่วง ๆ หายไปบ้างก็มี แต่ว่าถ้าหากเราลงอะไรเค้าจะมาเร็วมาก หนูไม่เชิงเล่นตัว เหมือนเราไม่ค่อยได้เล่น เฟสบุ๊คอยู่แล้วด้วย เค้าทักมาเราแอบรู้สึกว่าเค้ายังไงกับเรา แล้วเค้าจะทักคนอื่นอย่างนี้มั้ย ก็เลยทำให้ไม่ต้องการคุยกับเค้า

ขณะนั้นไม่รู้ว่าเค้าเป็นนักร้องดัง?

ขนม : ไม่รู้ค่ะ พอได้เห็นเฟซบุ๊กเค้าถึงรู้ ก็เลยรับเผื่อเค้าจะจ้างเราเล่นเอ็มวี เค้าทักมาไม่ค่อยได้ตอบเค้า ไม่รู้จะคุยอะไรกับเค้า เริ่มคุยจริง ๆ ช่วงปลายปี

ครูเต้ย : นานเลยครับผม มันมีช่วงนึงที่เค้าไม่ค่อยตอบ ผมเลยหายไป เค้าอาจไม่อยากคุยกับเรา พอเราเห็นเค้าลงนั่นลงนี่ใจอ่อนทักไปอีก ปกติเวลาเราทักหาใคร ถ้าหากเค้ารู้จักเราเค้าจะตอบเลย คนนี้ทำให้รู้สึกว่ามันมีอะไรอยากคุย เค้าก็ยังนาน ๆ ทีตอบ แต่ว่าเราก็ยังทักไปอีก ก็ตอบบ่อยขึ้น ก็ตัดสินใจนัดทานข้าว เค้าพาเพื่อนไปเต็มรถเลย (หัวเราะ)

ขนม : ประมาณ 7 คน ช่วงนั้นที่ตอบแชทพี่เต้ยบ่อย ๆ เพื่อนหนูเค้ารู้จักพี่เต้ย เค้าเห็นก็เอาโทรศัพท์ไปตอบ เพื่อนบอกพี่เต้ยชวนไปทานข้าว ในเวลานั้นหนูจะไม่ไป เพื่อนบอกไปได้มั้ยขอ หนูเลยบอกพี่เต้ยว่า ขอพาเพื่อนไปด้วยนะ

ครูเต้ย : ก็งง ๆ นิดหนึ่งมาเยอะ

พอขนมตกลงคบเป็นแฟนมีดราม่าเลย?

ครูเต้ย : ช่วงนึงมีคนลงรูป ในเวลานั้นเรามีกระแสใหม่ ๆ หลาย ๆ คนที่ชอบใจเรา ก็ไม่อยากให้มีแฟน พอพบรูปหลุดผมกับน้อง มีบางกลุ่มที่ไม่โอเค ไปขุดมาว่าเราเคยมีแฟน คบซ้อนหรือไม่ เลยกลายเป็นดราม่า

ขนม : หนูก็เครียด เพราะไม่ทราบอะไรเลยมาก่อน ก็ทักไปหาเค้าโกหกหนูเหรอ

ครูเต้ย : เราก็อธิบายทุกอย่าง เพราะว่ามันก็ชัดเจน

ขนม : เข้าใจค่ะ เพราะเหตุว่ามันมีอะไรที่ทำให้เราทราบได้ว่าชัดเจนแล้ว หนูเลยโอเค

ดราม่าหนักขนาดไหน?

ครูเต้ย : หนักมากนะครับ เพราะเหตุว่ามันเป็นช่วงโควิดรอบแรก คนกำลังอยู่บ้านทุกคนเล่นโซเชียล ทุกคนด่าผม มันเยอะ แรงทุกอย่าง หน้าตัวเมีย ดังแล้วลืมคนเก่า

ขนม : โดนค่ะ รู้สึกเสียใจมาก ขนมห่อละบาท อย่าไปกินขนมนะ มันไม่มีประโยชน์

สุดท้ายผ่านมาได้อย่างไร?

ครูเต้ย : ระยะเวลาครับ ตรงนั้นหนักพีคสุดแล้ว เราก็เงียบไม่ตอบโต้ ให้กระแสมันหายไป ก็จะมีเรื่องคนอื่นมาให้ดราม่า ต่อเราก็ปล่อยผ่านไป

ขนม : หนูไม่คิดจะพูดอะไรเลยอยู่แล้ว เพราะคิดว่าทุกคนมีเหตุผลของตน จะคิดอะไรก็แล้วแต่ ต่อให้หนูบอกถ้าเค้าไม่เชื่อหรือไม่ เข้าใจก็ไม่มีผลอะไร หนูเลยคิดว่าไม่พูดดีกว่า หยุดแค่ตรงนี้

ครูเต้ยขนม ตั้งใจ

ครูเต้ย อภิวัฒน์ เปิดมามีลูกเลยคนยิ่งโจมตี?

ครูเต้ย : ก่อนที่จะโพสต์รูปลูกเราคุยกันแล้ว ว่าเค้าต้องโตขึ้น เค้าจะต้องเจอสังคม จะให้เค้าอยู่อย่างงี้มันไม่ได้ วางแผนกันไว้ว่าเค้าครบ 1 ขวบเราจะเปิด

เปิดแล้วเป็นไง?

ครูเต้ย : ฟีดแบ็คดีมากครับผม ทุกคนเอ็นดูน้อง ก่อนลงคิดหนักเพราะมันจะออกมา 2 ด้าน ไม่ดีก็แย่เลย

ขนม : คิดหนักแบบเดียวกันค่ะ แต่ว่าคราวนี้มันไม่ใช่เราแล้วที่ต้องรู้สึก เค้าโตขึ้นมาแล้ว กลับมาย้อนเห็นสิ่งพวกนี้ เราไม่อยากให้เค้ารู้สึกอย่างนั้น ชื่อเค้าก็เป็นอีกเหตุผล คือเรามิได้ผิดพลาดในการมีเราตั้งใจ

วันแต่งงาน?

ครูเต้ย : มีไม่ถึง 20 คน เป็นญาติฝั่งผมกับญาติฝั่งขนม

ขนม : อยากที่จะให้ทุกคนทราบ เพราะว่าอยากให้เกียรติคุณพ่อคุณแม่เรา แต่ในความรู้สึกของหนู คืออยากให้คนที่เรารักมาอยู่ตรงนั้น ในวันแต่งงานของเรา แต่ง 1 พ.ค. ปี 63 มีน้องช่วงธันวา-มกรา

ช่วงฝากท้องยังต้องหลบมั้ย?

ครูเต้ย : หลบครับ แต่โชคดีที่มีโควิด ขนมก็เรียนออนไลน์ โรงพยาบาลที่เราไปฝากก็ไม่ได้พูดอะไร

ขนม : ณ ตอนนั้นโอเคที่สุดแล้ว หาหมอพี่เต้ยก็ไปด้วยทุกครั้ง

วันที่ตัดสินใจโพสต์รูปลูก?

ครูเต้ย : มันเป็นวันเกิดเค้าเลย เราจะมีจัดงานมีตติ้ง เราเลยถือเอาวันนั้น จัดมีตติ้งแล้วพาลูกไปเปิดให้พี่ ๆ ที่รอสนับสนุนเราจริง ๆ ให้ได้รู้เป็นกลุ่มแรก ครั้งแรกเลย บางคนพอรู้เพราะว่ามีคนถ่ายเอาไปลงบ้าง แต่ไม่เป็นกระแส โชคดีที่มีแฟนคลับที่น่ารัก

ขนม : ดีขึ้นค่ะ เราโล่งทุกอย่าง ปลดล็อกทุกอย่าง มันทำให้เราใช้ชีวิตยังมีอะไรอยู่คือเรื่องลูก เราโล่งมาก สุขใจไม่มีอะไรติดค้าง

ขนมอุ้มลูกขึ้นเวทีรู้สึกยังไง?

ขนม : ตื่นเต้น แล้วก็กลัวไปหมด กลัวทุกอย่าง ร้องไห้ตั้งแต่ก่อนเข้าไป ขึ้นบนเวทีก็ยืนร้องไห้ กลัวที่สุดคือพี่ ๆ เค้าจะโอเคมั้ย เสียใจหรือไม่ เพราะหนูไม่ต้องการเป็นสาเหตุที่ทำให้ใครรู้สึกแย่ก็เลยกลัวไปหมด แต่พี่ๆ ทุกคนน่ารักมาก หนูร้องไห้บนเวที พี่ๆ ตะโกนขึ้นมาร้องไห้ทำไม หนูยิ่งร้องใหญ่เลย ไม่คิดว่าเค้าจะซัพพอร์ตดีกับเราขนาดนี้

ครูเต้ย : ดีมากครับ ได้พาลูกไปไหนมาไหน ขณะนั้นนอกจากโรงพยาบาล ก็ได้พาลูกไปเที่ยว 2-3 ครั้งเองไปไพรเวทอยู่แค่บริเวณนั้น

ไม่ต้องการมีลูกอีกเพราะเหตุใด?

ครูเต้ย : รักคนเดียว หยุดแล้วไม่มีแล้ว

ขนม : ถ้าหากต้องการมีก็อยากมีให้เค้าเป็นเพื่อนกัน แต่แล้วแต่พ่อ

ติดตามดูรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

Babylon รีวิวหนัง

รีวิวหนัง "Babylon" จัดจ้าน 3 ชั่วโมงเน้น ๆ กับวงการบันเทิงฮอลลิวูดยุคบุกเบิก

มาถึงคิวของหนังที่อาจจะบอกได้ว่า เป็นหนังที่เสียงค่อนข้างแตกอยู่ไม่น้อย ในกลุ่มหวังรางวัลในปีนี้ นี่เป็น “Babylon” ผลงานล่าสุดของผู้กำกับหนุ่ม “เดเมียน ชาเซลล์” (จาก La La Land) ที่มีจุดเด่นตรง ที่เป็นหนังพีเรียดย้อนยุค กลับไปเมื่อร้อยปีก่อน ซ้ำยังอัดแน่นด้วยเนื้องาน ที่เต็มตาถึง 3 ชั่วโมง เทียบเท่ากับหนัง Avatar ภาคล่าสุดอย่างยิ่ง แล้วตัวหนังมันมีข้อเด่นข้อด้อยตรงกันบ้าง รวมทั้งควรค่าแก่การนั่งแช่ ในโรงภาพยนต์นานขนาดนี้หรือไม่?

Babylon เป็นหนังพาย้อนกลับไปลอสแองเจลิส ในทศวรรษ 1920 เรื่องราวเกี่ยวกับความทะเยอทะยานเกินธรรมดา รวมทั้งพฤติกรรมสุดเหวี่ยงเกินพิกัด และถ่ายทอดเรื่องราวยุครุ่งเรือง และก็การล่มสลายของหลากหลายตัวละคร ในตอนยุคแห่งความเสื่อมโทรม แล้วก็ความเลวทรามตอนฮอลลิวูดยุคบุกเบิกเริ่มต้น ที่เต็มไปด้วยแสงสีอันน่าหลงใหล แล้วก็ภาพมายาที่ลวงหลอก

Babylon ย้อนยุค

Babylon นี่นับได้ว่าเป็นชิ้นงานภูมิใจ เสนอของเดเมียน ชาเซลล์

เขาเลยแหละ เนื่องจากเขาพยายามปลุกปั้นอยู่นานหลายปี และก็ยังเป็นโปรเจกต์ หนังที่หลาย ๆ ค่ายต่างจ้องแย่งเอามาเป็นเจ้าของด้วย แน่ ๆ ว่าเขายังคงรับหน้าที่ดูแลงานกำกับ และก็เขียนบทหนังด้วยตัวเอง ซึ่ง Babylonก็ยังเต็มไปด้วยลายเซ็นชัด ๆ ในลีลาการทำหนังรูปแบบของเขา งานภาพ งานเสียง แล้วก็เซ็ตติ้งต่าง ๆ ทำออกมาได้เป็นมืออาชีพ และระรัวใส่ผู้ชมเหมือนกับดีดดิ้นอยู่ ในปาร์ตี้ตลอดเวลา

ความยาวของหนังที่มีถึง 3 ชั่วโมง 9 นาที ของ Babylonนั้น ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรก็แล้วแต่เลย จะต้องขอบคุณที่หนังมีจังหวะ การเล่าเรื่องที่บันเทิงแล้วก็สนุกสนานไปได้ด้วยดี มาเอื้อนเอ่ยถึงจุดที่น่าชื่นชมกันก่อน งานออกแบบโปรดักชั่นเรื่องนี้ ต้องยกนิ้วให้ เปรียบเทียบสเกลก็แทบเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ระดับทุนร้อยล้านขึ้นไปได้เลย

เนื่องจากว่าหนังมีรายละเอียดต่าง ๆ ในหนังเพียบ งานโปรดักชั่นส่วนใหญ่ที่ต้องเก็บรายละเอียดของยุคสมัยในช่วงสมัยปี 1920s พร้อมด้วยไล่ไทม์ไลน์ไปตามสมัย การออกแบบฉากแล้วก็ศิลป์ต่าง ๆ ของ Babylonทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ สิ่งที่ถ่ายทอดออกมา ทำให้ผู้ชมละสายตา ไปกับแวดล้อมในหนังมิได้เลย แม้ว่าจังหวะลีลาของหนังจะฉับไว จนกระทั่งบางครั้งแทบจะมองไม่ทันบ้างก็ตาม แต่องค์ประกอบส่วนนี้จัดว่าสะดุดตาดี

หนังที่น่าดู

อีกสิ่งที่จะต้องปรบมือให้ดัง ๆ ก็คืองานดนตรีประกอบภาพยนตร์

ที่โดยเจ้าเดิม “จัสสิต เฮอร์วิตซ์” ที่เคยทำเพลงให้กับ La La Land มาบรรเลงและจุดประกายไฟอันร้อนแรงให้กับซาวน์หนังเรื่องนี้ ที่หลัง ๆ ยังคงใส่ท่วงทำนอง เครื่องเป่าสไตล์แจ๊สเอาไว้ ได้อย่างเป็นเอกลักษณ์เหมือนเคย ถ้าหากเป็นแฟนนักประพันธ์ท่านนี้

ก็จะสัมผัสได้ถึงลายเซ็น ในชิ้นงานของเขาได้ดี รวมทั้งเพลงประกอบต่าง ๆ ก็ดูส่งเสริมอารมณ์ของหนังได้เป็นอย่างดี ทั้งสุข อีกทั้งเศร้า อีกทั้งงานเลี้ยง อีกทั้งโศกนากฏกรรม ที่ถือว่ามอบซาวน์รสเลิศ ที่แสนจัดจ้าน

ตอนที่องค์ประกอบเสื้อผ้าหน้าผม แล้วก็การแต่งหน้าของ Babylonเรื่องนี้ ที่ถือว่าก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี เพียงแต่ว่ายังมิได้โดดเด่น เป็นที่สุดมากนัก

ด้วยเหตุว่าความละเอียดในเรื่องชุดและการออกแบบให้กับตัวละคนในหนังนั้น ยังแอบสัมผัสได้ถึงความร่วมยุคอยู่เบา ๆ มิได้เน้นเก็บความเฉพาะของสมัย ตามเส้นเรื่องสักเท่าไหร่ แต่ยังโชคดีที่จุดนี้ ถูกมองข้ามไป เนื่องจากงานโปรดักชั่นดีไซน์ ที่ตื่นตารวมทั้งตรึงใจได้ดี

ส่วนบทหนังและการเล่าเรื่องของ Babylon อาจจะจะต้องสารภาพตรง ๆ ว่ายังไม่ค่อยน่าประทับใจถึงที่สุดนัก บางทีอาจด้วยเหตุว่าเป็นว่ารายละเอียด ที่ถูกใส่มาเยอะ และก็แน่นเกินไป แม้ว่าจะสัมผัสได้ถึงเจตนารมณ์ รวมทั้งวัตถุประสงค์ของ เดเมียน ชาเซลล์ ที่อยากได้คาระความคลาสสิก แล้วก็ต้นตำหรับ ของต้นกำเนิดแวดวงภาพยนตร์ฮอลลิวูด สิ่งที่เขาอยากจะสื่อสารออกมานั้น นับว่าชัดเจน เพียงแต่ว่าเนื้อหา ที่เอามาละเลงในหนังเรื่องนี้ ออกจะแน่นไปเสียหน่อย แม้ว่าจะยังรู้สึกชอบ แต่ว่าก็ไม่ทราบว่า จะโฟกัสที่ไหนก่อนดี

หนัง3ชม.

จริง ๆ แล้วค่อนข้างจะรู้สึกขนลุก ไปกับบทสรุปในช่วงท้ายของหนัง

ที่เป็นการสรรเสริญความเป็น Cinematic ที่สืบทอดกันมานับร้อยปี ของแวดวงนี้ เพียงแต่ก็แอบทราบเหมือนว่าผู้ผลิตหาจุดลง ที่งดงามได้ไม่พบ ฉากสรุปท้ายเรื่องของหนังเรื่องนี้ ก็เลยมีทั้งอารมณ์ตื้นตัน แล้วก็มึนงงไปพร้อม ๆ กัน เพราะว่าไม่คิดว่า จะเลือกทางลงให้กับแบบนี้ ทั้งที่น่าจะมีสักทาง ที่จบได้คมคาย และสวยงามมากยิ่งกว่านี้

ทางด้านการแสดงของทีมนักแสดง ก็จัดว่าพวกเขาทำออกมาได้ดี ตามมาตรฐานเลย “แบรด พิตต์” ที่พระเอกที่มาช่วยประคองทั้งเรื่องเอาไว้ ได้ด้วยความเป็นมืออาชีพของเขา “มาร์โกต์ ร็อบบี้” ใส่เสน่ห์ไปเต็ม ๆกับบทบาทที่เธอได้รับ และก็ยังเล่นไปสุดทางกับตัวละครนี้

แม้ว่าบางทีอาจดูเป็นบทซ้ำ ๆ ไปหน่อย ในเวลาที่ “ดิเอโก คัลวา” เป็นหนุ่มหล่อลาตินหน้าใหม่ ที่ถือว่าโปรยเสน่ห์ และก็เข้ากับบท ที่ได้รับอย่างดี ถึงการแสดงของเขายังจะต้องลับคมไปอีก

ตกลงว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น ก็แอบรู้สึกก้ำ ๆ กึ้ง ๆ กับหนังเรื่องนี้อยู่แบบเดียวกัน แต่อาจเอนเอียง ไปในทิศทางที่ค่อนข้างชอบมากกว่า ด้วยส่วนประกอบของงานสร้างที่จัดจ้าน และก็บันเทิงได้ลึกซึ้ง

ถึงแม้ยังมีบางองค์ประกอบ ที่ยังไม่ประทับใจถึงที่สุด และมีความคิดว่าน่าจะทำได้ดีมากกว่านี้ได้อยู่ก็ตาม แต่นี่ก็คือหนัง ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่จัดจ้านตลอด 3 ชั่วโมง ที่อัดแน่น ด้วยความเนื้อใน ที่เต็มน้ำเต็มเนื้อ บางครั้งก็แทบล้นทะลักออกมา

Babylon บางทีก็อาจจะไม่ใช่หนังที่ทำออกมา ได้เหมาะสมกับผู้ชมทุกกลุ่ม ด้วยความยาวมาก ๆ ที่ไม่ใช่ผู้ชมหนังยุคนี้ จะหาเปิดดูกันแน่นอน แต่ว่าหนังก็โดดเด่นดีที่งานสร้าง ยิ่งถ้าหากว่าเป็นคนที่ให้ความสนใจ และคลุกคลีอยู่กับแวดวงสายหนังด้วยแรง หนังเรื่องนี้ เป็นการสดุดีวงการภาพยนตร์รสเลิศเรื่องหนึ่ง ย้อนกลับไปถวิลยุคเก่า ๆ ที่แทบลืมกันไปหมดแล้ว ถึงแม้ว่าการร้อยเรียงจะยังไม่คมคาย ถึงที่สุดนัก แต่ว่ารวม ๆ ก็นับว่าจัดจ้านใช้ได้ ด้วยความดีความชอบจากงานสร้างล้วน ๆ เลย

 

ซี นุนิว แฟนมีต

คนไทยอย่าเพิ่งน้อยใจ! “ซี-นุนิว” แย้มเตรียมมีจัดแฟนมีตฯ ที่ไทยแน่นอน

เรียกว่างานแน่นตั้งแต่ต้นปี เลยก็ว่าได้ ซี นุนิว สำหรับคู่จิ้นสุดฮอตอย่าง “ซี พฤกษ์ พานิช” รวมทั้ง “นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์” ที่ปัจจุบันทั้งคู่จัดเตรียมออกเดินทาง จัดแฟนมีตให้แฟน ๆ ต่างประเทศได้หายคิดถึงกัน แถมยังบอกอีกว่าแฟน ๆ ชาวไทยก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะเหตุว่ามีจัดงานแฟนมีตฯ ที่ไทยแน่ๆ โดยทั้งสองได้ออกมาอัปเดตผลงานว่า

ซี นุนิว คู่รัก

สำหรับเดือนมีนาที่จะถึงนี้ เป็นเดือนที่ได้อยู่ไทยน้อย มีแฟนมีตที่ญี่ปุ่นกับเกาหลี

อาจจะมีทำคอนเทนต์ หรือมีงานอื่นด้วย ก็รอติดตามกัน ส่วนชาวไทยอย่าพึ่งน้อยใจ เดี๋ยวเร็ว ๆ นี้ก็จะประกาศแฟนมีตฯ ของซีรีส์ Cutie pie แล้วก็จะมีมีตฯคอนเสิร์ตของหนูกับเฮียด้วย ผมว่ามันจะต้องมีอะไรที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถปล่อย แล้วก็โชว์ได้เต็มเลย อีกทั้งไม่เคยร้องเพลงลูกทุ่ง ในแฟนมีตเลย ไม่รู้จะมีรึป่าว แต่ว่าต้องการลองนะ แต่ว่ายังไม่แน่ใจว่า จะจัดที่ใด แต่ว่าอยากรีบจัดแฟนมีตแล้วเช่นกัน

เดี๋ยวนี้พึ่งจะออนตอนพิเศษไป เหมือนเป็นการได้ขอบคุณแฟน ๆ และเป็นการฝึกความสามารถของเราด้วย ยืนยันว่าจะทำงานเรื่อย ๆ แต่ในปีนี้จะมีเวลาพัก มากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากซีรีส์ยังไม่ออน แต่ว่าก็มีผลงานเพลงอีกมากมายมาเซอร์ไพร์ส กับแฟน ๆ หลายเพลง อยู่ในซีรีส์หลายอีพีอยากให้ลองไปติดตามกัน

ส่วนทางนุนิวเผยอีกว่า ระยะนี้มีออกงานเดี่ยวก็จะเหงา ๆ หน่อย ปกติออกงานคู่ตัวติดกันตลอด “อยู่กับเฮียก็จะอุ่นใจกว่า” แต่ว่าก็คอยซัพพอร์ตและให้กำลังใจกันเสมอ

งานคู่ซี นุนิว

“ซี นุนิว” ทำแฟนคลับ กรี๊ดแตก เผยสถานะใช้คำว่า “คู่รัก” ได้แล้ว

ถือว่าเป็นคู่จิ้นสุดฮอตตอนนี้เลยก็ว่าได้ ที่มีแฟนคลับตาม ส่งเสียงกรี๊ดกันเยอะมาก สำหรับ 2 หนุ่ม “ซี พฤกษ์ พานิช” กับ “นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์”

ล่าสุดมาเปิดใจในรายการ WOODY FM เสริฟความหวานแบบเบา ๆ ให้แฟน ๆ ได้ฟินอินกระจายไปตาม ๆ กัน

เมื่อ “ซี” บอกพบ “นุนิว” ครั้งแรกรัก มีเซ้นส์ว่าคือเห็นน้องคนนี้เดินมา น้องต้องดังแน่เลย เรามีเซ้นส์อะไรสักอย่าง ด้วยหน้าตา ในขณะนั้นยังไม่ทราบความสามารถน้องเลย เราพูดกับพี่อ๊อฟว่าคนนี้ดัง ผมอยากคู่ด้วย แอบไปกระซิบนิดนึง เซ้นส์รู้สึกว่าจะต้องมีของ น้องเป็นไทค์ที่คนชอบ น่ารัก มีความนุ่มนิ่มมุมิ

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์เวลานี้ สำหรับตัว “ซี ” เปิดเผยว่า มันมากกว่าพี่น้อง เพราะไม่ใช่แค่เรื่องงาน มันเรื่องแบบส่วนตัว ชีวิตด้วย สำหรับเพื่อการผลักดันการใช้ชีวิต สำหรับการทำงานด้วย หรือเหมือนเป็นที่ปรึกษา อย่างน้องก็จะเคยพูดว่า เหมือนเป็นพ่อเลย เราก็คิดในใจแก่แล้วหรอ ไม่ทราบจะนิยามอย่างไร

แต่ว่ารู้สึกว่ามันมากกว่าพี่น้อง ด้วยเหตุว่าเราลองประเมินในใจตนเองแล้ว คำว่า พี่น้อง มันแบบไม่ได้ลึกซึ้งหรือเป็นอย่างนี้ สามารถใช้คำว่าเป็นคนรักได้ นิยามได้เช่นกัน คู่รัก เพราะว่ารู้สึกว่าเรา ก็ทำเหมือนคู่รักเช่นกันนะ ดูแลเป็นที่ปรึกษาต่าง ๆ

เคยบอกกับน้องว่า ก็เฮียยอมหนูคนเดียว (เขินเหมือนกันนะเนี่ย) งานนี้ทำเอาคนดูเขินตัวงอไปตาม ๆ กันเลย

ซี นุนิวและเพื่อน

“ซีนุนิว”ฮอตไม่หยุด CUTIE PIE 2 YOU ตอนพิเศษทำเอฟซีปลื้มสุดๆ

ไม่ปล่อยให้ทุกคนรอนาน สำหรับซีรีส์ นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ กลับมาตอกย้ำกระแสยืนหนึ่ง ทำเอาแฟน ๆ “ซีนุนิว” กรี๊ดไม่หยุด พร้อมรีวิวความชอบ ตอนพิเศษรัว ๆ ในโลกออนไลน์ ถูกเอ่ยถึงหนักมากในปี 2022 สำหรับซีรีส์ นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ ที่ถูกจัดลำดับเป็นซีรีส์ ที่มีคนพอใจมาก จนทำให้ชื่อของ ซี พฤกษ์ พานิช แล้วก็ นุนิวชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์ ติดอันดับต้น ๆ ของการเป็นนักแสดงหน้าใหม่

ที่คนสนใจอย่างมาก และก็ฮอตได้รับความนิยม จนงานพรีเซ็นเตอร์รุม เข้ามาอย่างล้นหลาม นอกจากนั้นซีรีส์ดังกล่าว ยังได้รับคำชื่นชม ถึงภาพที่สวยงาม การเล่าเรื่องที่กระชับ ทันสมัย แล้วก็การเข้าถึงบทบาท ของนักแสดงทุกคนในเรื่องอีกด้วย​

โดยในปีนี้ 2023 ซีรีส์เรื่องนี้ กลับมาอีกแล้วกับ 4 ตอนพิเศษ นิ่งเฮียทูยู CUTIE PIE 2 YOU รวมถึงนักแสดงทุกคน ก็กลับมาสร้างความซาบซึ้งอีกครั้ง กับตอนพิเศษนี้ ไม่ว่าจะเป็น แม้ก กรธัสส์ รุจีรัตนาวรพันธุ์ (อี้), ณฐ ณฐสิชณ์ เอื้อเอกสิชฌ์ (คนเดียว), ติวเตอร์ กรภัทร์ ลำน้อย (เหนือ), ยิม ปริญญากรณ์ ขันสวะ (ศีลเสมอ) มาพร้อมเพลงประกอบซีรีส์ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ปัจจุบันนี้ กับเพลงรักก็รักดิ (Love is Love) เพลงน่ารัก ๆ บวกกับท่าเต้นคิวท์ ๆ สไตล์ ซีนุนิว นั่นเอง โดยดูได้ทาง Mandee Channel นั่นเอง

ป่าแปลกแลกตาย หนัง

รีวิวหนัง "It’s in the Woods ป่าแปลกแลกตาย" (หน้า)หนังที่หลอกเราได้อย่างสาแก่ใจ

เราเพิ่งเปิดปีเข้ามาได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องมาเผชิญหน้ากับหนังสะพรึงจากญี่ปุ่น เรื่องใหม่ที่คิวฉายรับต้นปี นี่คือ “It’s in the Woods ป่าแปลกแลกตาย” หนังเขย่าขวัญ ที่ได้รับการโหมโรงโปรโมตว่า เป็นการกลับมา ของผู้กำกับหนังสยองชั้นครู “ฮิเดโอะ นากาตะ” ผู้สร้างตำนาน The Ring ได้เฮี้ยนหลอนไปทั้งโลก

แต่ครั้งนี้กลับมา จับเล่นกับตำนานป่า อันน่าสยองขวัญของญี่ปุ่น ที่น่าจะชวนขนลุกได้ไม่เบา แต่หารู้ไม่ว่าทั้งหมดทั้งมวล ที่เอ่ยมานั้นเป็นเพียง เรื่องหลอกตลบแตลง

ป่าแปลกแลกตาย เดิน

It’s in the Woods ป่าแปลกแลกตาย คือเรื่องราวของ ทานากะ จุนอิจิ เจ้าของฟาร์มในชนบท

วันหนึ่งอดีตภรรยาอาคาอิ ซาวาโกะ แล้วก็คาซึยะ ลูกชายวัยประถมของเขา ที่อาศัยอยู่ที่โตเกียว ได้มาเยี่ยมเยือน ตอนนั้นเองก็เกิด ปรากฎการณ์ประหลาดแล้วก็ลึกลับมากมายในบริเวณ ป่า รวมถึงในเมืองที่จุนอิจิอาศัยอยู่ ก็มีการเสียชีวิต หรือหายตัว ไปอย่างน่าสงสัยของผู้คน เอริ คุณครูประจำชั้นของคาซึยะ รวมทั้งจุนอิจิ ต้องเข้ามาพัวพัน กับปรากฎการณ์ลึกลับ ก่อนจะได้พบกับสิ่งที่เรียกว่า “มัน” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความกลัว ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

เอาจริง ๆ จะบอกว่าเป็นการตลบแตลง ก็อาจใช้คำแรงไปสักหน่อย เพียงว่าหนังมีการประชาสัมพันธ์ และใส่ลูกเล่นสำหรับการเรียกร้องความสนใจ กับคนดูได้ระดับที่น่าทึ่ง เพราะเชื่อว่าหลาย ๆ

น่าคง คิดว่านี่จะเป็นหนังผีเฮี้ยน เกี่ยวกับดวงวิญญาณ อาฆาต ที่สิงสูอยู่ในป่า และพยายาม จะมาเอาชีวิตคน ตามธรรมเนียนหนังผีญี่ปุ้น แต่ปรากฏว่า เนื้อแท้ข้างในอันที่จริงแล้ว กลับไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้เลย เพราะหนังได้ฉีก ไปอีกทางในแบบที่เกริ่นบอก เอาไว้ที่หน้าหนัง

ผู้กำกับ ฮิเดโอะ นากาตะ ก็ยังคงใส่ลีลางานสร้างในรูปแบบ ฉบับของแกเอาไว้ตามสไตล์ It’s in the Woods บางทีอาจยังไม่ใช่ผลงาน ที่โดดเด่นและก็ดีเด่นสักเท่าไหร่นัก แต่มันก็นับได้ว่าเป็น ชิ้นงานที่ถ่ายทอดออกมา ได้สาแก่ใจเขาได้อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็นที่ต้องการจะเล่า แล้วก็ปมที่อยากจะแตะต้อง จัดว่าใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้ บนพื้นฐานและกิมมิกตามมาตรฐาน แบบฉบับญี่ปุ่นทั่วไป ที่บอกตรง ๆ ว่ามิได้มีอะไรแปลกใหม่นัก

การเล่าเรื่องรวมทั้งบทของหนัง ยังค่อนข้างขรุขระอยู่สักหน่อย

เนื่องจากดูเหมือนว่าหนังจะมี 2 แกนในการ ดำเนินเล่าไปควบคู่กัน แต่ก็ยังไม่อาจจะทำได้ถึงกับขนาด ประสบผลสำเร็จไปด้วยกันทั้งสอง

ทั้งพาร์ทเรื่องลี้ลับและพาร์ทปมครอบครัวของตัวละคร ในท้ายที่สุดมันก็ทำหน้าที่ เล่าออกมาได้เพียงผิวเผิน ไม่มีซึ่งมิติใด ๆ และเต็มไปด้วยความแห้งแล้ง อย่างน่าเสียดาย ที่องค์ประกอบ 2 อย่าง ที่ราวกับจะไปด้วยกันได้ แต่ก็ยังล้มเหลวไป ได้ไม่สุดทางอยู่ดี

It’s in the Woods ยังคงเต็มไปด้วยพล็อตซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่อาจจะไม่ได้มีความว้าวสักเท่าไหร่ บทหนังที่ยังไร้ซึ้งน้ำหนัก ที่มีเหตุผลสักเท่าไหร่ เป็นการตั้งประเด็น ที่ยังขาดความน่าเชื่อถือ ก็เลยไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ที่หนังยิ่งเล่าไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งน่าขบขัน แทนที่จะเป็นความน่ากลัว เพราะเหตุว่าผู้ชมเอง ก็คงจะมีแนวคิดแบบเดียวกับอีกหลาย ๆ ตัวละครในเรื่องนี้ ที่ยังไม่ให้ความน่าเชื่อถือที่เพียงพอ ที่จะสนับสนุนแนวคิดนี้ของหนัง

การออกแบบคาแรกเตอร์ตัวละครของ It’s in the Woods ก็ค่อนข้างเต็มไปด้วย ตัวละครที่น่าหงุดหงิดและก็รำคาญด้วยการกระทำที่น่าเข้าไป จับเขย่าตัวเรียกสติอยู่บ่อยครั้ง เป็นว่าตัวละครเหล่านี้จะช่วย ขับเคลื่อนทำให้หนังดูสนุกขึ้น กลายเป็นความรำคาญใจ ให้กับผู้ชมแทนอยู่เสมอ ทั้งเรื่อง และก็ล้วนแต่เป็นคาแรกเตอร์ ที่ดาดดื่น-แห้งแล้งอย่างไม่มีมิติอะไรเลย เป็นความคลีเช่ ที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จ แบบญี่ปุ่น ถึงแม้ว่านักแสดงแต่ละคนจะเล่นได้ แต่ว่าบทหนังค่อนข้างทำให้หงุดหงิดไม่น้อย

ป่าแปลกแลกตาย ลูกชาย

ป่าแปลกแลกตาย นางเอก

มีอีกอย่างที่ทำให้เกิดความรู้สึกอึ้งไปกับ It’s in the Woods ก็ถือเทคนิคพิเศษ

และก็องค์ประกอบงานสร้าง ด้านโปรดักชั่นต่าง ๆ ที่ราวกับจะไม่ค่อยลงทุนเท่าไหร่ หลายฉากหลายซีนก็วน ๆ ซ้ำไปอยู่อย่างนั้น อยู่ในจุดที่เพลย์เซฟไปตลอดทั้งเรื่อง ทั้งยังมาพร้อมกับงานออกแบบฉากซีจี ที่ทำให้ขนลุกขนพอง

ไม่ใช่ว่าทำออกมาน่าขนลุก แต่ว่าหนังทำออกมา ได้น่าผิดหวังในจุดนี้ อย่างไม่เชื่อสายต่อว่าผู้กำกับจะปล่อย ผ่านออกมาได้ในหนังญี่ปุ่น ได้ชื่อว่าค่อนข้างจะพัฒนางานซีจี ด้านนี้ไปได้ไกลแล้วเหมือนกัน

สรุปแล้วนั้น It’s in the Woods อาจจะไม่ได้เป็นหนังที่ดีเลิศ และก็สมบูรณ์สักเท่าไหร่ หนังเต็มไปด้วยข้อบกพร่องเยอะแยะเยอะไปหมด เรื่องต่าง ๆ ยังขาดเหตุผลรวมทั้งความน่าเชื่อถืออยู่เยอะ

พลอยทำให้เนื้อหนังกลายเป็น ดูตลกสุดขั้วไปสักหน่อย แทนที่จะขายความหลอน แล้วก็น่าสยดสยอง กลับหักมุมไปอีกแบบแทน ซ้ำยังเต็มไปด้วยบท รวมทั้งการสร้างตัวละคร ที่กวนอารมณ์ผู้ชมอยู่เรื่อย ๆ กระทั่งแทบไม่มีแรงจูงใจ ที่ต้องการจะเอาใจช่วยใคร ลยสักทางเดียว

แต่ว่าจะว่าแล้วนั้น It’s in the Woods ก็จัดว่าทำเซอร์ไพรส์ ให้กับผู้ชมได้อยู่ ในแง่ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันระหว่างตอนเข้าโรงไปดู กับตอนออกมาจากโรง หลังจากที่ได้ดู เนื่องจากว่าหน้าหนังเรื่องนี้

ได้ทำให้ซ่อนงำเราเอาไว้ ได้อย่างแยบยล จริง ๆ องค์ประกอบของหนังอาจจะไม่ได้หลอกเรา เพียงแต่ว่าเราอาจจะมิได้ ทันสังเกตและพิจารณามันให้ดี ๆ เพราะเหตุว่าอันที่จริง มันก็บอกใบ้ ให้ในหลายจุด กับการโปรโมตหนังเรื่องนี้ มาก่อนแล้ว

นาว ทิสานาฏ เรียนต่อนอก

“นาว-ทิสานาฏ” เตรียมแพ็กกระเป๋า รอบินเรียนออสเตรเลีย “นิว” ห่วงไปอยู่เป็นเพื่อน

ทำเอาแฟนคลับ ละครต่างตกใจแอบเสียดาย หลังนางเอกสาว นาว ทิสานาฏ ศรศึก ประกาศว่า กำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ จนกระทั่งหลายท่านมีความคิดว่านางเอกสาว จะทิ้งวงการไปเลยหรือเปล่า เจอ นาว มางานแจกปฏิทินปี 2023 พร้อมเหล่านักแสดงช่อง 7 ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เลยถามข่าวเรื่องที่ เจ้าตัวเตรียมตัวไปเรียนต่อว่า

“มันเป็นช่วงเวลาที่หนูว่าง ๆ ก็เลยคิดว่า อยากจะลองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เลยตกลงที่จะไปศึกษาต่อ คร่าว ๆ น่าจะไปเดือน มี.ค. เรื่องวันรอทางโน้นตอบกลับ ไปเทกคอร์สหาประสบการณ์ ยังระบุไม่ได้ว่านานแค่ไหน”

นาว ทิสานาฏ เตรียมตัว

เรื่องงานเคลียร์ละครเรื่องสร้อยนาคีรึยัง?

“เหลืออีกประมาณ 5 คิวก็หมดแล้วค่ะ”

ตัดสินใจยากมั้ย?

“นานเช่นกันค่ะ ต้นเหตุที่ตัดสินใจ ไปเพราะเหมือนว่างมาก หนูถ่ายเรื่อง สร้อยนาคีเรื่องเดียว อีกคิวมันก็ว่าง ๆ นานหลายเดือนมาก เราก็ไม่อยากจะปล่อยเวลา ให้มันไร้ประโยชน์ เลยตกลงว่า ลองไปหาอะไร ทำที่มันเป็นประโยชน์กับตัวเอง ดีกว่าเลยจะไปเรียนภาษาค่ะ”

ไปครั้งนี้เหมือนการไปใช้ชีวิตคนเดียว เคยใช้ชีวิตอย่างนี้มั้ย?

“ไม่เคยเลยค่ะ เราทำงานตั้งแต่เรียนแล้ว ไม่เคยมีโอกาส ลองไปอยู่กับตัวเองเลยซักครั้ง ครั้งนี้คงเป็นการตัดสินใจว่า ไปอยู่กับตัวเอง ดูว่าเราชอบอะไร มันเป็นการตัดสินใจ จะวันเกิดหนูพอดี ว่าเราอยากทำอะไร”

แพลนการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง?

“อยากใช้ชีวิตปกติ จริง ๆ เรียนภาษาบ้านเราก็ได้ แต่ว่าเราไม่ได้อยากมีคำว่า อุ๊ย นาว-ทิสานาฏ เราต้องการมีฟีลแบบว่า ไม่มีใครรู้จักเรา ได้ใช้ชีวิตของเรา ไปทำงานที่ร้านอาหาร คืออยากใช้ชีวิตอย่างงั้นเลย ต้องการลองดูจริง ๆ อยากไปแบบธรรมดาเลย”

นิว-วงศกร เป็นคนแนะนำว่าให้ไปประเทศนี้?

“ทีแรกหนูคิดไว้ว่า จะไปสองประเทศ คืออังกฤษ หรือไม่ก็ออสเตรเลีย แต่ที่ไม่ได้ไปอังกฤษเพราะมันไกล และก็ไม่ได้รู้จักใครเลย ที่อยากไปเพราะอังกฤษเป็นประเทศที่ชอบ แต่ว่าออสเตรเลียเป็นประเทศ ที่ค่อนข้างจะปลอดภัย หากหนูไปคนเดียว น่าจะปลอดภัยมากกว่า เพราะเหตุว่าเป็นประเทศแห่งการเรียนการสอน และคนไทย ก็ไปเรียนที่นั่นเยอะ”

เราก็เป็นสาวสวย หากมีหนุ่มฝรั่งมาจีบล่ะ?

“ประเด็นคือหนูจะไปหากุ๊กกิ๊ก ที่นู่นแต่ว่าก็ไม่ได้ไง เพราะว่ามีคนรู้จัก เดี๋ยวเค้าก็จะมาบอกพี่นิว (หัวเราะ) พูดเล่นค่ะ”

นาว ทิสานาฏ นิว

เห็นว่านิวจะไปส่งด้วย?

“ใช่ค่ะ พี่นิวจะไปส่งแล้วเค้าพูดว่า จะไปอยู่เป็นเพื่อนหนึ่งเดือน คือเค้าเป็นห่วง แต่ว่าสิ่งที่นาวเป็นห่วงในขณะนี้ ก็คือเรื่องของภาษา ด้วยเหตุว่าเราไม่ได้เก่งขนาด ที่จะสื่อสารกับเค้าได้คล่อง แล้วเราไปคนเดียว ก็ไม่รู้ว่าต้องคุยกับใคร แต่มันก็จะต้องคุย เราอยากไปเริ่มที่นั่นเลย”

คิดนานมั้ยเพราะว่าการไปเรียนก็เท่ากับเรา ทิ้งเงินทิ้งงานตรงนี้ไป?

“มันเป็นการได้อย่างเสียอย่าง หากหนูไม่ได้ตกลงไป หนูอาจมาเสียดายทีหลังก็ได้ แต่ถ้าเกิดไปเรียนที่นู่น แล้วหนูกลับมา หนูก็ยังชอบการทำงาน ยังไม่ได้ลาวงการ ประเดี๋ยวก็กลับมา ยังทำงานอยู่ ถ้าหากพี่ยังต้องการ หนูยินดีอยู่แล้ว”

ล่าสุดก่อนปีใหม่รถโดนชนท้าย?

“มันเจ็บใจตรงที่ไม่ถูกหวย มันเกิดตอนวันคริสต์มาสเลยนะ ตรงนั้นมันเป็นตรงยูเทิร์น คิดว่าในระหว่างที่หนูเลี้ยว คันข้างหลังเค้ามิได้มองรถยนต์หนู คงจะมองคันที่สวนมาเลยชนรถหนู”

วันเกิดนิว เห็นเราลงคลิปตีระนาดอวยพรวันเกิด?

“คือระนาด หนูเคยเรียนตั้งแต่ สมัยตอนเรียนมัธยม แล้วก็มีรุ่นพี่ยืมไปนานแล้วเป็นปี จู่ ๆ ก็นึกอยากที่จะตี ก็ให้เค้าเอากลับมาให้หน่อย วันเกิดพี่นิวพอดี ก็เลยไปแกะโน้ตตีระนาด เป็นเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แบบตีระนาด พี่นิวก็ชอบ เพราะว่าเค้าชอบ อะไรแบบแปลก ๆ อยู่แล้ว (หัวเราะ) ของขวัญก็มีให้ค่ะ”

นาว ทิสานาฏ เคลียร์

ประวัติ “นาว ทิสานาฏ” สาวเก่งผู้หลงรักนาฏศิลป์ไทย จากรั้ววิทยาลัยนาฏศิลป

นาว ทิสานาฏนอกจากจะเป็นนักแสดงมากความสามารถ มีผลงานน่าติดตามแล้ว เธอคนนี้ยังเรียกว่า เป็นสาวที่หลงรัก และชื่นชอบนาฏศิลป์ไทย จนกระทั่งศึกษาด้านนาฏศิลป์ โดยเฉพาะเลยด้วย

มาทำความรู้จักกับ ประวัติ นาว ทิสานาฏ สาวเก่งนักแสดง รางวัลคุณภาพ ดีกรีนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป คนนี้ให้มากขึ้นกันซักหน่อย

นาว มีชื่อจริงว่า ทิสานาฏ ศรศึก
เกิดวันที่ 5 พ.ค. พ.ศ. 2536
ภูมิลำเนาเป็นคนกรุงเทพมหานคร
ส่วนสูง 165 ซม.
สำเร็จการศึกษาจากระดับอุดมศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป
IG : now_tisanart

นาว ทิสานาฏเรียกว่า เป็นสาวที่สนใจทางด้านนาฏศิลป์ไทยมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเธอ ก็ได้นำความชื่นชอบส่วนตัว มาต่อยอดทางทางการศึกษา ด้วยการเข้าเล่าเรียนทางด้านนาฏศิลป์ ที่วิทยาลัยนาฏศิลปกรุงเทพ

เธอเข้าสู่วงการบันเทิง โดยการถูกชวนจากผู้จัดการดารา ในระหว่างที่เธออยู่กับคุณแม่ จึงทำให้เธอ เริ่มจากงานถ่ายแบบ แล้วก็ถ่ายมิวสิกวิดีโอ และก็มีงานแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรก และต่อจากนั้นเธอก็ได้เซ็นสัญญา เป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 ในปี 2554 และก็มีผลงานละคร ออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัจจุบัน

นอกจากนี้ทั้งความสามารถส่วนตัว แล้วก็การแสดงของเธอ ยังทำให้เธอมีรางวัล การันตีผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รางวัลพระราชทาน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ, เณศไอยรา ตลอดจนรางวัล เอเชียน ทีวี อวอร์ดส เลยด้วย