รีวิวหนัง “The Wonder” แค่ฉากเปิดเรื่องขึ้นมา ก็ต้องทำให้คุณรู้สึก..เอ๊ะ

ปีนี้ น่าจะเป็น ปีที่ท่าทางการแสดง ของนักแสดง ในผลงานต่าง ๆ จะเจิดจรัสอยู่ หลายคน และก็น่าจะเป็นปีที่ เวทีรางวัลได้ ลุ้นกันสนุกสนาน เพราะ “The Wonder” น่าจะเป็น หนังอีกหนึ่งเรื่อง ที่เป็นผลงาน ที่มาพร้อมทั้งการแสดง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยการร้อยเรียง เรื่องได้อย่าง ลึกลับพิศวงและก็ ค่อย ๆ เสาะสืบ คลุกวงใน เข้าไปทีละเรื่อย ๆ อย่างเต็มไป ด้วยคำถาม ผ่านแนวความคิด และก็ความเชื่อ ของตัวละคร ที่เต็มไป ด้วยความซับซ้อน

The Wonder เรื่องเล่าที่มี ฉากหลังในปี 1862 หรือ 13 ปี ในภายหลังจาก ทุพภิกขภัยครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้น ในภูมิภาค ลิบ ไรต์ พยาบาลสาว ไนติงเกล จากอังกฤษ ได้ถูกเรียกตัว ให้ไปยัง ชุมชนเคร่งศาสนา แห่งหนึ่ง ในมิดแลนด์ส ดินแดนไอร์แลนด์ เพื่อกระทำการตรวจเด็กสาว วัย 11 ปี แอนนา โอดอนเนลล์ ที่กล่าวถึงว่า มีชีวิตอยู่โดย ไมได้รับประทานอะไรเลย มาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว

The Wonder แค่ฉาก

The Wonder เด็กสาว

การที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ ได้อย่างน่าแปลกใจของ แอนนา

ที่เปรียบเสมือนเป็นภาวะ กระยาทิพย์จากสวรรค์ ตามความเชื่อใน ชาวชุมชนท้องถิ่น ถึงกระนั้นพยาบาลสาว ก็เริ่มสังเกตเห็นว่า สุขภาพของแอนนา เริ่มทรุดลงอย่างรวดเร็ว และก็ตั้งใจแน่วแน่

ว่าจะต้องค้นหาเรื่องจริง พร้อมทั้งท้าทาย แนวความคิดความเชื่อ ของชาวชุมชน อย่างเด็ดเดี่ยว ที่ค่อนข้างจะเสี่ยงต่อ อุดมการณ์

และก็นี่เป็นหนัง อีกเรื่องที่หยิบเอา วรรณกรรมขายดี ของนักเขียนหญิงชื่อดัง “เอ็มม่า โดโนฮิวจ์” ที่ผลงาน ชิ้นก่อนของเธอ อย่าง Room เป็นอีกมาสเตอร์พีช ที่ได้ขึ้นจอ

และก็กลายเป็นหนัง ระดับแนวหน้า ของเวที รางวัลต่าง ๆ มาแล้ว โดยใน The Wonder นั้น มาพร้อมกับการร้อยเรียง เรื่องที่แตกต่าง ไปอย่างสิ้นเชิง แต่ว่ายังสะดุดตา ด้วยการนำทางด้วย การใช้ตัวละคร ผู้หญิงเป็นหลัก

ปมและก็ปริศนาต่าง ๆ ที่ The Wonder ได้กระทำการโปรย เอาไว้ราวกับ เศษขนมปัง ที่ให้คนดูได้ คลำหาไปตามทาง ถือได้ว่าชิ้นส่วนปริศนา ที่น่าค้นหาและก็ชวนติดตาม

ท่ามกลางบรรยากาศ ด้านสังคมและก็วัฒนธรรม ในช่วงศตวรรษที่ 19 หยิบนำเอา ความเชื่อมาโยงใย กับสังคม ได้อย่างแยบยล นี่เป็นหนัง ที่พยายามสื่อสาร และก็ตีโจทย์ที่ท้าทาย เพราะเป็นการ เล่าประเด็น ที่เฉียดเข้าใกล้ กับศาสนาและก็ความเชื่อส่วนบุคคล

The Wonder อาจจะไม่ใช่หนัง ที่เล่าอย่างตรงไป ตรงมาสักเท่าไหร่ เพราะหนัง ก็ใช้ลูกเล่นต่าง ๆ เข้ามาบิด ใช้ในวิธีการเล่าเรื่อง บอกเลย ว่าเรื่องนี้ สามารถเรียก ร้องความสนใจเรา ได้เป็นอย่างดี

ตั้งแต่ ฉากเริ่มแรก ของหนังที่ มาพร้อมทั้งวลีที่ว่า “อย่าเชื่อทุกอย่าง ที่ได้เห็นและได้ยิน” กับน้ำเสียง ที่แสนเยือกเย็น ของผู้พูดบรรยาย ที่ได้ เกริ่นเอาไว้ ไปสู่เรื่องราว ที่ทำให้ ผู้ชมเตรียม รับแรงปะทะ ในหนังเรื่องนี้

ผู้กำกับ “เซบาสเตียน เลลิโอ” ยังคงหยิบเอาไว้ ลายเซ็นของเขา มาใช้กับหนังเรื่องนี้ ได้อย่างมีเชิงชั้น โดยเฉพาะงานออกแบบ งานสร้าง และก็การดีไซน์ภาพ และก็แสงต่าง ๆ ที่ถูกบรรจงจัดองค์ประกอบ

ใส่เข้ามาเพิ่มพูน อารมณ์ของหนัง ได้เป็นอย่างดี และก็เป็นอีกครั้ง ที่เขาสามารถ ใช้แสงธรรมชาติ ในเป็นการเล่าเรื่อง ได้เป็นอย่างดี และก็ เอื้อต่อการ นำเสนอฉากต่าง ๆ ที่มีเบื้องหลัง เป็นตอน ศตวรรษก่อน

The Wonder คุณรู้สึก

การเลือกใช้ โทนจังหวะ ของหนังและก็การสร้าง บรรยากาศในเรื่องนี้ The Wonder

ถือว่า ลึกลับโดนใจ แม้ว่านี่ จะไม่ใช่หนังผี หรือ หนังฆ่าแกงกันอะไร แต่ว่าหนังเลือก ใช้ซาวน์ เสียงที่ชวน วังเวงและก็ทรงพลัง เข้ามาประทับ นับว่าเป็นอีกไฮไลต์

ที่ช่วยยกระดับ หนังเรื่องนี้ให้ตราตรึง ความสนใจได้เป็นอย่างดี วิสัยทัศน์ ของเขา ได้ถูกนำใช้ในการ ร้อยเรียงหนังเรื่องนี้ ออกมาได้ อย่างเติมเต็ม และก็แทบจะทำออกมา ได้เพอร์เฟ็ค

และแน่ ๆ ว่าความดีงาม อยู่ตรงที่ “ฟลอเรนซ์ พิวจ์” ที่หนังเรื่องนี้คงจะ ส่งให้เธอได้เฉียดเข้าใกล้ เวทีรางวัลได้อีกครั้ง การแสดง ของเธอ ช่างทรงพลัง แม้ว่าจะ ไม่ได้ออกแรง อะไรมาก แต่ว่า การรับบทบาท

และก็ออกแบบคาแรกเตอร์นี้ ของเธอนั้น ทำออกมา ได้น่าสนใจและก็น่าจดจำ พลังแอคติ้งที่น้อย แต่ว่ามากโดยแท้จริง ฟลอเรนซ์สามารถ แบกรับหนังทั้งเรื่องนี้ เอาไว้ได้ค่อย ข้างสบายเลย

อีกคนที่ ต้องการจะกล่าวถึง ก็คือนักแสดง เด็กดาวรุ่ง “แคลา ลอร์ด แคสซิดี้” ที่พึ่งมีประสบการณ์ไม่นาน แต่ว่ามาเจองานหิน อย่างในหนังเรื่องนี้ ที่ตอนแรกก็ไม่คิด ว่าจะระเบิดพลัง ออกมาได้ขนาดนี้ แต่ว่าเมื่อเธอจะต้องมาต่อ บทกับฟลอเรนซ์ และก็ช่วยสื่อสาร และส่งพลังกันไปมา การแสดงของเธอนั้น ทำออกมาได้น่าทึ่ง โดยเฉพาะซีนดราม่าต่าง ๆ ที่จะต้องแบกรับไว้ ด้วยตัวเอง เธอก็จัดการ กับมันได้ค่อนข้างดี

ภาพรวม แล้วนั้น The Wonder อาจจะไม่ใช่หนัง ในกระแสทั่ว ๆ ไป หนังมีแบบเฉพาะในตัวเอง ทัั้งจังหวะ การเล่าเรื่องและก็การถ่ายทอด เต็มไป ด้วยเอกลักษณ์ ถึงจะเป็นหนัง ที่ค่อนข้างจะเงียบและก็เบา แต่ว่าเมื่อผนวก กับการแสดง อันทรงพลังของผู้แสดงนำ อีกทั้งยัง มีบทหนังที่ค่อนข้างจะเข้มแข็ง ในระดับที่น่าพอใจ นี่ก็เลยเป็น อีกผลงาน อันน่าจดจำของ ฟลอเรนซ์ พิวจ์ ที่จะต้องจับตาเธอ ให้ดี ๆ บนเวทีรางวัลต่าง ๆ ในตอนต้นปีหน้า…

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Wonder

ประเภท: ดราม่า / ลึกลับ

ผู้กำกับ: เซบาสเตียน เลลิโอ

นำแสดงโดย: ฟลอเรนซ์ พิวจ์, ทอม เบิร์ก, แคล่า ลอร์ด แคสซิดี้

ความยาว: 108 นาที